1 พ.ย. ภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝน เป็นเครื่องทรงฤดูหนาว ถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง เสร็จสิ้น การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเขียนพระบรมสาทิสลักษณ์ ด้วยข้อความช่วยกันรักประเทศไทยและพี่น้องประชาชน รักบ้านเรา รักพี่น้องร่วมชาติ ด้วยความเมตตา และร่วมสามัคคีทำความดี จากนั้นทรงมีพระราชปฏิสันถารกับพสกนิกรที่มาเฝ้ารับเสด็จฯ อย่างใกล้ชิดตลอดเส้นทาง
ต่อมา นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี ได้โพสต์เฟซบุ๊กเล่าถึงการเฝ้ารับเสด็จฯครั้งนี้ว่า...
ทรงพระเจริญ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
ท่านตรัสกับผมว่า
"ต้องช่วยกันเอาความจริงออกมา"
อ่านข่าว - ปลื้มปิติ! "บิณฑ์" เผยนาทีก้มกราบ"ในหลวง" ทรงมีรับสั่งขอบใจ
ด้านนายจักรพงษ์ กลิ่นแก้ว แกนนำ ศปปส. เปิดเผยด้วยว่า รู้สึกตื้นตันใจที่ได้ใกล้ชิดกับพระองค์ท่าน และหลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่ทำให้ประชาชนที่ยังหลงผิดหรือเข้าใจอะไรผิดๆ ได้เห็นแล้วว่าการกระทำต่างๆนั้นถูกบิดเบือน วันนี้คนสวมเสื้อเหลืองออกมากันเยอะ แสดให้เห็นพลังและความจงรักภักดี
ส่วนความใกล้ชิดของพระมหากษัตริย์ กับประชาชนนั้น แสดงให้เห็นว่า ท่านไม่ได้นิ่งดูดาย และประชาชนอยู่ในสายพระเนตรเสมอ และพระองค์ท่านไม่เคยทอดทิ้งประชาชนแน่นอน
ด้านนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาคส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม และ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งร่วมเข้าเฝ้ารับเสด็จฯด้วยนั้น นายพีระวิทย์ เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งแก่ตนเองและนายมงคลกิตติ์ ในขณะที่ทูลเกล้าฯถวายพวงมาลัย ว่า ขอให้รักประเทศชาติ รักประชาชน อย่ารักแต่เราอย่างเดียว บ้านเมืองสำคัญมาก ขอให้ทำเพื่อประชาชนด้วย แล้วรักประชาชน รักแผ่นดินให้มากๆ ซึ่งตนและนายมงคลกิตติ์ น้อมรับใส่เกล้าใส่กระหม่อมไว้เป็นสิริมงคล และเป็นเครื่องย้ำเตือนสติเตือนใจในการปฏิบัติหน้าที่สืบไป
นอกจากนี้ นายพีระวิทย์ และนายมงคลกิตติ์ ได้ร่วมกันจัดอาหารว่างพร้อมเครื่องดื่มจำนวน 500 ชุด ไปแจกจ่ายแก่ประชาชนที่มารอเข้าเฝ้ารับเสด็จด้วย