svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"จตุพร"เตือนคนฝากรัฐบาลอย่าหยามประชาชน

01 ตุลาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"จตุพร พรหมพันธุ์" เตือนรัฐอย่าย่ามใจ 14 ตุลาฯ หลังประมาณม็อบแค่หยิบมือ แนะดูตัวอย่างสมัย "จอมพลประภาส จารุเสถียร" คนแห่มาชุมนุมแบบมืดฟ้ามัวดิน ซัดส.ว.เลิกอ้างประชามติ เพราะสุดท้ายก็ไปร่วมกับคนฉีกรธน.

(2 ตุลาคม 2563) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่า การเมืองเดือนตุลาฯ ขึ้นอยู่กับฝ่ายรัฐบาลจะสร้างบรรยากาศท้าทาย ดูถูก เหยียดหยาม จนเร่งสุมไฟให้ประชาชนออกมาชุมนุมมืดฟ้ามัวดินหรือไม่ เพราะประวัติศาสตร์ 14 ตุลาฯ มีปรากฎการณ์สำคัญ และควรเป็นบทเรียน คือ การรายงานข่าวของฝ่ายรัฐ ที่ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง

นายจตุพร กล่าวว่า จนทำให้จอมพลประภาส จารุเสถียร รองนายกรัฐมนตรี รมว.มหาดไทย และ ผบ.ทบ. ในขณะนั้น เชื่อมีคนมาชุมนุมน้อย จึงพูดท้าทายไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งเป็นเหตุให้คนออกมาชุมนุมกันมโหฬาร แล้วเกิดการปะทะกัน กระทั่ง 3 ผู้นำอำนาจ ต้องลี้ภัยยังต่างประเทศ ซึ่งการยกกรณีนี้ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อทบทวนถึงคำพูดของรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคนหนึ่ง ได้ถากถางการชุมนุมเรียกร้องให้แก้รัฐธรรมนูญ ว่ามีคนเพียงหยิบมือเดียวเป็นการเยาะเย้ย ดูถูกเหยียดหยาม ซึ่งคนไทยทนไม่ได้ และจะเป็นเหตุให้คนออกมาแสดงกำลังมืดฟ้ามัวดินในวันที่ 14 ตุลาฯ

"การพูดด้วยถ้อยคำและท่วงทำนองไม่ระมัดระวังแล้ว จะกระทบกับการเมืองถัดจากนี้ไปว่า จะมีเหตุการณ์ความวิปโยคอีกหรือไม่คำว่าคนหยิบมือเดียว เป็นการดูถูกเหยียดหยามเขา ผมยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ผมสนับสนุนแค่ 3 ข้อเท่านั้น เป็นจุดยืนไม่เคยเปลี่ยน และนายกรัฐมนตรีพูดเป็นนัยๆ จะสนับสนุนร่างแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ไม่แตะหมวด 1-2 แม้ ส.ว.บางคนแสดงบทบาทว่า ฟังนายกฯคนเดียวไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่า ถึงที่สุดต้องฟัง" นายจตุพร กลล่าว

อย่างไรก็ตาม สงสัยว่า เมื่อนายกฯสนับสนุนร่าง แก้รัฐธรรมนูญแล้ว ปัญหา คือ ทำไมฝ่ายรัฐบาลต้องยื้อเกมด้วย หากต้องให้แก้ รัฐธรรมนูญไม่ควรลังเล ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ ต้องการแก้รัฐธรรมนูญจริงหรือไม่อีกอย่าง ส.ว.ควรเลิกพูดเรื่องประชามติ เพราะถึงที่สุดแล้ว ในทางปฏิบัติ สว.ก็ไม่ได้จริงจังกับประชามติเท่าใดนัก เนื่องจากคนที่เคยออกมาปกป้องรัฐธรรมนูญ 2560 เคยอ้างประชามติปกป้องรัฐธรรมนูญ 2550 เพื่อไม่ให้แก้ไขมาแล้ว แต่เมื่อมีคนฉีก ยังมาอยู่กับคนฉีก แล้วออกมาพูดถึงประชามติของ รัฐธรรมนูญ 2560 อีก ซึ่งวิธีการนี้ทำให้ ส.ว.บางกลุ่มอยู่สัมผัสอำนาจการเมืองมายาวนาน

"เมื่อนายกฯ แสดงท่าทีสนับสนุนร่างแก้รัฐธรรมนูญ สิ่งที่น่าห่วงคือ กรรมาธิการแก้รัฐธรรมนูญทำไมต้องยื้อการประชุมกันถึง 1 เดือน และลากไปสร้างภาวะคับแค้นจนถึงวันที่ 14 ตุลาฯ ถ้าเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาแล้วจะโทษใคร ถ้ารัฐบาลทำตามเสียงเรียกร้องให้แก้ รัฐธรรมนูญแล้ว สถานการณ์จะเบาบางขึ้น แต่นี่กลับทำตรงข้ามกัน คือ เร่งสุมไฟขึ้นไปเรื่อยๆ" ประธาน นปช. กล่าว

นายจตุพร กล่าวด้วยว่า การเมืองอยู่ที่การกระทำ ว่าทำอย่างไร เพราะเห็นกันอยู่แล้ว ถึงการชุมนุมครั้งใหญ่ สิ่งสำคัญ คือ ทำไมไม่คิดจะนำพาให้บ้านเมืองเดินไปสู่ทิศทางควรจะเป็นได้อย่างไร โดยควรเข้าใจสถานการณ์ความอดอยาก เดือดร้อนของคนไทยที่อดทนมายาวนานกันบ้าง ซึ่งอยากย้ำว่าฝ่ายรัฐบาล อย่าได้ชะล่าใจความรู้สึกของคนไทย และใครที่ท้าทายประชาชน มีอันเป็นไปทั้งนั้น ต้องฟังกันบ้าง อย่าได้พูดยั่วยุประชาชน ซึ่งต้องมีการตักเตือนนักการเมืองที่พูดอะไรไม่รู้สึกรู้สาเสียเลย

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยังหวังว่าสิทธิการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ต้องได้รับการคุ้มครองให้เป็นเสรีภาพของประชาชน ที่สำคัญรัฐควรรีบเสนอเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ ซึ่งจะทำให้บรรยากาศในเดือนตุลาฯ ดีขึ้น ถ้าเอาแต่ท้าทายจะจบลงที่ไม่ได้อะไรเลย คือ รัฐธรรมนูญก็ไม่ได้แก้ และคนก็ไม่ได้อยู่ ให้ไปคิดอ่านกันเอาเอง

logoline