จากกรณีคนร้ายเป็นชาย สวมวิกผมยาว ใช้อาวุธปืนบุกจี้ชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพฯ ภายในห้างสรรพสินค้าเทสโก้-โลตัส ย่านลาดพร้าว-วังหิน พร้อมกับกวาดเอาสร้อยคอทองคำ น้ำหนักประมาณ 216 บาท ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดช่วงสายของวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ (28 กันยายน) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รองผู้บัญชาการ สำนักงานกฎหมายและคดี (รอง ผบช.กมค.) เป็นประธานการประชุมคอนเฟอร์เร้น จากศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) ไปยัง สน.โชคชัย ซึ่งจากการสอบถามตำรวจ สน.โชคชัย รายงานว่า คดีมีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก โดนตนก็ได้มีข้อสั่งการตามปกติ เรื่องให้ดูแลรักษาความปลอดภัยร้านทองภายในห้างสรรพสินค้า พร้อมกำชับให้เก็บรักษาของกลาง พยานหลักฐานต่างๆ รวมทั้งคราบเลือดที่สามารถตรวจหาดีเอ็นเอ.คนร้ายได้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากร้านทองไปจนถึงสถานที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งย่านเสนานิคม จนพบรถ จยย. ที่คนร้ายจอดทิ้งไว้ คราบเลือดคนร้าย และเสื้อแจ็คเก็ต ซึ่งพยานหลักฐานตรงนี้สามารถยืนยันได้ว่าเป็นคนร้ายตัวจริงอย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม สำหรับเลือดของคนร้ายที่ตกอยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุ เนื่องจากขณะก่อเหตุ คนร้ายใช้มือทุบกระจกจนได้รับบาดเจ็บ ทำให้มีคราบเลือดติดอยู่ที่ตู้กระจก และทางตำรวจจะนำรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุให้แฟนพันธ์แท้ รถจักรยานยนต์ ตรวจสอบอีกครั้ง
พลตำรวจตรีธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า พนักงานสอบสวนได้สอบพยานไปแล้ว 9 ปาก ตอนนี้ยังไม่ทราบว่า คนร้ายรายนี้ก่อเหตุคนเดียว หรือมีผู้อื่นร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่ ยังต้องตรวจสอบว่ามีผู้ต้องสงสัยไปดูลาดเลาก่อนก่อเหตุหรือไม่ ทั้งนี้ จากลักษณะผมยาวของคนร้ายที่ปรากฎ คนร้ายรายนี้อาจจะเป็นชายหรือหญิงก็ได้ ต้องนำแผนประทุษกรรมย้อนหลังหลายปีมาตรวจสอบ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เบื้องต้นพบว่ามีผู้ต้องสงสัยรวมแล้วนับหลายสิบราย ที่สำคัญต้องนำแผนประทุษกรรมในคดีโจรแต่งหญิงชิงทองที่ห้างบิ๊กซีพระราม 4 เมื่อปี2562 มาตรวจสอบด้วย
ทางด้านพันตำรวจเอกพรทวี สมวงค์ ผกก.สน.โชคชัย กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบพยานแวดล้อมไปแล้วทั้งหมด 30 ปาก แต่ต้องพิจารณานำเข้าสำนวนอีกครั้ง เบื้องต้นมีประมาณ 9 ปาก ทั้งนี้ฝากแนะนำไปยังผู้ประกอบการร้านทอง ซึ่งอยู่ในคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะมีคนร้ายมาก่อเหตุชิงทองได้ง่าย โดยแนะนำให้ติดลูกกรงเหล็ก แม้ร้านทองต่างๆ จะมองว่าทำประกันภัยไว้แล้วก็ตาม ซึ่งจากการตรวจสอบโดยมากจะพบว่าร้านทองที่ตั้งเองนอกห้าง มักจะติดลูกกรงป้องกันไว้ ขณะที่ร้านสาขาตามห้าง มักจะไม่ค่อยติด