(23 กันยายน 2563) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบในหลักการการให้สิทธิ หรือคืนสิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุข กับบุคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิเด็กและบุคคลที่เรียนอยู่ในสถานศึกษา ที่กระทรวงมหาดไทยได้ขึ้นทะเบียนโดยมีเลขประจำตัว 13 หลักเรียบร้อยแล้ว จำนวน 3,042 คน
อย่างไรก็ตาม คนกลุ่มดังกล่าวจะได้รับสิทธิครอบคลุมบริการด้านสาธารณสุข ได้แก่ การสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสมรรถภาพตั้งแต่วันที่ ครม. มีมติอนุมัติ โดยใช้งบประมาณดำเนินการ 7.46 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดกรอบวงเงิน ตามจำนวนผู้มีสิทธิในอัตรางบประมาณเหมาจ่ายรายหัว เท่ากับสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปีงบประมาณ 2563 ในอัตรา 2,453.95 บาทต่อคน
ทั้งนี้ หลังอนุมัติในครั้งนี้แล้ว ยังมีบุคคลที่ยังไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขอีก จำนวน 73,506 คน ซึ่งสิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุข เป็นสิทธิที่บุคคลควรได้รับอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ตามหลักสิทธิขั้นพื้นฐานที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ครม.จึงเห็นควรให้กระทรวงธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบข้อมูลเพื่อยืนยันความถูกต้อง และรับรองการขึ้นทะเบียนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและช่วยควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วย