นายกรัฐมนตรีซูงะ ซึ่งได้รับการลงมติจากรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกในรอบเกือบ 8 ปีเมื่อวันพุธ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับผลการสนทนาทางโทรศัพท์ครั้งแรกกับผู้นำสหรัฐนาน 25 นาทีว่า เขาได้บอกกับทรัมป์ว่า พันธมิตรระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐเป็นรากฐานของสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค และทั้งสองเห็นพ้องต้องกันว่าจะเพิ่มความร่วมมือใกล้ชิดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ผู้นำสหรัฐยังบอกว่า พร้อมรับโทรทัพท์จากเขาตลอด 24 ชม.อีกด้วย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีซูงะยังเรียกร้องให้ผู้นำสหรัฐร่วมผลักดันการปล่อยตัวชาวญี่ปุ่นที่ถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัวไปช่วงทศวรรษ 1970-1980 และสองผู้นำตกลงร่วมมือพัฒนาและแจกจ่ายวัคซีนและยารักษาโรคโควิด-19 ขณะเดียวกันทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สองผู้นำยังย้ำถึงความสำคัญในการผลักดันวิสัยทัศน์เรื่องภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เปิดกว้างและเสรี และความร่วมมือส่งเสริมเศรษฐกิจโลกให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน ซูงะสนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียเป็นคนแรกนับจากเข้ารับตำแหน่ง
ปัจจุบันญี่ปุ่นเผชิญการกดดันจากสหรัฐ ที่ให้เพิ่มความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทางทหารมากขึ้นตามข้อตกลงพันธมิตรด้านความมั่นคง ที่อนุญาตให้มีทหารสหรัฐประจำการในฐานทัพของญี่ปุ่นเพื่อปกป้องญี่ปุ่นจากการถูกรุกราน
และสื่อญี่ปุ่นรายงานว่า ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจะเยือนกรุงโตเกียวช่วงต้นเดือนหน้าและจะเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีซูงะ ซึ่งจะเป็นการพบปะระดับสูงครั้งแรกระหว่างสองชาติหลังจากซูงะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี