svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"นิด้าโพล"ชี้ปชช.ต้านการโจมตี"ผู้เห็นต่างทางการเมือง"

06 กันยายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"นิด้าโพล" เผยผลสำรวจ พบประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการรณรงค์โจมตีผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิกัน พร้อมระบุ การตั้งแคมเปญรณรงค์ "แบนสินค้า-บริการ" ไม่มีผลต่อการตัดสินใจใดๆ เพราะดูที่ตัวสินค้าเป็นหลักในการเลือกซื้อ

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง "เสรีภาพในการโจมตีผู้เห็นต่าง" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 1 - 3 กันยายน 2563 จากประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,326 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการรณรงค์ผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อต่อต้าน/โจมตี ผู้แสดงความคิดเห็นต่างทางการเมืองการสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ "นิด้าโพล" สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 97.0
จากการสำรวจเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการรณรงค์ผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อต่อต้าน/โจมตี ผู้แสดงความคิดเห็นต่างทางการเมือง พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 51.58 ระบุว่า เป็นสิทธิและเสรีภาพที่กระทำได้ในระบอบประชาธิปไตย รองลงมา ร้อยละ 13.20 ระบุว่า เป็นการละเมิดสิทธิผู้แสดงความคิดเห็นต่างทางการเมือง ร้อยละ 12.14 ระบุว่า เป็นแค่การทำตามกระแส ร้อยละ 8.90 ระบุว่า ผู้ถูกต่อต้าน/โจมตีผ่านสื่อออนไลน์ ก็มีสิทธิตอบโต้กลับ ร้อยละ 8.37 ระบุว่า เป็นแค่กิจกรรมทางการเมืองทั่ว ๆ ไป อย่างหนึ่ง ไม่เสียหายอะไร และเป็นกิจกรรมทางการเมืองที่สร้างความแตกแยกในสังคม ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 4.37 ระบุว่า เป็นการรณรงค์ที่มีกลุ่มการเมือง/พรรคการเมือง อยู่เบื้องหลัง ร้อยละ 4.15 ระบุว่า เป็นการกระทำที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ร้อยละ 2.87 ระบุว่า เป็นกิจกรรมทางการเมืองที่บังคับให้คนในสังคมเลือกข้าง ร้อยละ 0.83 ระบุว่า เป็นการรณรงค์ที่มีหน่วยงานต่างประเทศ อยู่เบื้องหลัง และร้อยละ 10.71 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ ไม่สนใจ

ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อการรณรงค์ผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อต่อต้าน/โจมตี ผู้แสดงความคิดเห็นต่างทางการเมืองพบว่า ร้อยละ 17.19 ระบุว่า เห็นด้วยมาก เพราะ เป็นสิทธิและเสรีภาพที่สามารถกระทำได้โดยการแสดงออกผ่านสื่อออนไลน์ที่หลากหลายช่องทาง ร้อยละ 17.65 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะ เป็นสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นต่างทางการเมืองผ่านสื่อออนไลน์ และเป็นช่องทางที่แสดง ความคิดเห็นง่ายที่สุด ร้อยละ 20.36 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะ เป็นการละเมิดสิทธิผู้แสดงความคิดเห็นต่างทางการเมือง ซึ่งทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพในการเเสดงความคิดเห็นอย่างเท่าเทียมกัน ร้อยละ 37.18 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะ ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพในการเเสดงความคิดเห็นที่ต่างกัน ควรเคารพความคิดเห็น ไม่ควรโจมตีคนที่เห็นต่างทางการเมือง และร้อยละ 7.62 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ส่วนความกลัวของประชาชนหากมีการแสดงความคิดเห็นต่างทางการเมือง แล้วจะถูกต่อต้าน/โจมตี ผ่านสื่อออนไลน์พบว่า ร้อยละ 10.48 ระบุว่า กลัวมาก เพราะ ทุกเพศ ทุกวัยมีสื่อออนไลน์ที่เข้าถึงได้ง่าย สามารถรับรู้ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ร้อยละ 20.67 ระบุว่า ค่อนข้างกลัว เพราะ เกรงว่าจะเกิดผลกระทบต่ออาชีพการงาน เรื่องส่วนตัว และครอบครัว ร้อยละ 17.35 ระบุว่า ไม่ค่อยกลัว เพราะ ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ แต่อยู่ในกรอบของกฎหมาย ร้อยละ 46.30 ระบุว่า ไม่กลัวเลย เพราะ เป็นสิทธิและเสรีภาพที่สามารถแสดงความคิดเห็นต่างทางการเมืองในพื้นที่ส่วนตัวของตนเอง โดยไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น และร้อยละ 5.20 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงผลกระทบต่อการตัดสินใจในการบริโภคของประชาชน จากกรณีที่มีการรณรงค์ผ่านสื่อออนไลน์เพื่อแบนสินค้า/บริการของผู้สนับสนุนหรือผู้แสดงความคิดเห็นต่างทางการเมืองพบว่า ร้อยละ 11.16 ระบุว่า มีผลกระทบมาก เพราะ มีผลทางด้านจิตใจกับผู้สนับสนุนหรือผู้แสดงความคิดเห็นต่างทางการเมือง ทำให้แบนสินค้านั้น ๆ ตามไปด้วย ร้อยละ 15.31 ระบุว่า ค่อนข้างมีผลกระทบ เพราะ ผู้สนับสนุนหรือผู้แสดงความคิดเห็นต่างทางการเมืองไม่มีใจเป็นกลาง ทำให้ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้านั้น ๆ ด้วย ร้อยละ 12.90 ระบุว่า ไม่ค่อยมีผลกระทบ เพราะ การบริโภคสินค้าจะดูจากสรรพคุณ คุณภาพ และคุณสมบัติมากกว่าปัจจัยอื่น ๆ ร้อยละ 57.46 ระบุว่า ไม่มีผลกระทบเลย เพราะ ดูที่ตัวสินค้าเป็นหลักในการบริโภค และขึ้นอยู่กับความพึงพอใจหรือความชอบส่วนตัวมากกว่า พรีเซ็นเตอร์หรือยี่ห้อสินค้า และร้อยละ 3.17 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

logoline