นิวซีแลนด์เปิดศาลคดีถล่มมัสยิดเขย่าโลก

งานนี้จำเลยรับสารภาพในทั้ง 92 กระทง ซึ่งประกอบไปด้วยข้อหาฆาตกรรม 51 กระทง และพยายามฆ่า 40 กระทง กับข้อหาการก่อการร้ายอีก 1 กระทง ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายครั้งแรกของนิวซีแลนด์ เรื่องนี้ทำให้เขาอาจจะเป็นคนแรกในนิวซีแลนด์ที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต โดยไม่มีสิทธิ์ขอลดหย่อนโทษ  การพิจารณาตัดสินคดี คาดว่าจะใช้เวลา 4 วัน ซึ่งในวันแรก จำเลยมาศาลในชุดสำ หรับนักโทษสีเทาและอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ 5 คน ในระหว่างการพิจารณาคดี จำเลยไม่ได้แสดงอารมณ์ความรู้สึกอะไรเป็นพิเศษ
จากปัญหาการระบาดของไวรัสโคโรนา ภายในห้องพิจารณาคดี จึงมีผู้เข้ามาแค่ครึ่งเดียวตามระเบียบใหม่ที่กำหนด ขณะที่คนอื่น ๆ ดูการพิจารณาคดีที่ถ่ายทอดไปยังในห้องอื่น งานนี้ ผู้รอดชีวิต และครอบครัวของผู้สียชีวิตหลายคนร้องไห้ และมีการปลอบโยนซึ่งกันและกัน

การพิจารณาคดีเริ่มต้นด้วยการที่อัยการสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีความยาว 26 หน้ากระดาษ และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการพูดถึงรายละเอียดของสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ อัยการบอกว่าก่อนเกิดเหตุ จำเลยใช้โดรนมาบินเหนือมัสยิดแห่งหนึ่งเพื่อศึกษาถึงลู่ทางในการก่อเหตุ จำเลยวางแผนก่อเหตุในช่วงที่มัสยิดมีคนมารวมตัวกันมากที่สุด นั่นก็คือวันศุกร์ ในรถของเขามีปืนมากถึง 6 กระบอก นอกจากนั้นเขาก็ยังซื้อถังแก๊สดัดแปลงมาอีก 4 ถัง เพื่อใช้เผามัสยิดหลังการโจมตี  ในภายหลัง เขาบอกกับตำรวจว่า เขาหวังว่าจะได้ใช้มัน
จำเลยปฏิเสธที่จะตั้งทนาย และจะว่าความด้วยตัวเองในการพิจารณาคดี ทำให้วิตกกันว่าเขาอาจจะใช้โอกาสนี้เป็นเวทีในการโปรโมตแนวความคิดเหยียดเชื้อชาติของเขามีการกำหนดว่าเขาจะสามารถพูดได้ หลังจากที่เหยื่อที่รอดชีวิตของเขาแต่ละคนได้พูดเสร็จแล้ว แต่คาดว่าผู้พิพากษาคงจะหยุดความพยายามของเขาในการพูดอะไรที่นอกเหนือจากรูปคดี

นิวซีแลนด์ไม่มีโทษประหารชีวิตมาตั้งแต่ปี 2504 และโทษหนักที่สุดก่อนหน้านี้คือจำคุกตลอดชีวิต และมีสิทธิ์ขอลดโทษได้หลังจากที่ติดไปแล้ว 30 ปี
หลังเสร็จสิ้นการพิจารณา ผู้พิพากษาคาเมรอน แมนเดอร์ จะเป็นคนพิพากษาตัดสินโทษของจำเลย