ฟิลิปปินส์โอเค ล็อคดาวน์เมืองหลวงอีกรอบ

ดูเตรเต อนุมัติให้พื้นที่กรุงมะนิลา รวมถึงจังหวัดลากููน่า , คาวิเต้ , ริซาล และบูลากัน ที่อยู่โดยรอบ อยู่ภายใต้มาตรการกักกันโรคอย่างเข้มงวดตั้งแต่วันที่ 4 ถึง 18 สิงหาคม ระหว่างการประชุมกับคณะรัฐมนตรีเมื่อคืน โดยเมื่อวันศุกร์ ผู้นำฟิลิปินส์เพิ่งจะให้พื้นที่กรุงมะนิลา อยู่ภายใต้มาตรการกักโรคแบบผ่อนผันต่อไปอีก 2 สัปดาห์
กรุงมะนิลา ที่มีประชากร 12 ล้านคน และเป็นศูนย์กลางการระบาดของประเทศ เคยอยู่ภายใต้ล็อคดาวน์ช่วง 16 มีนาคม ถึง 15 พฤษภาคม จากนั้นก็มีการทะยอยผ่อนปรนมาตรการควบคุมต่าง ๆ และอยู่ภายใต้มาตรการกักโรคแบบผ่อนผันมาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ในความพยายามเสี่ยงของรัฐบาลกับการทะยอยเปิดเศรษฐกิจ หลังจากตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจหดตัวในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบกว่า 2 ทศวรรษ
หลังจากที่รัฐบาลเลิกใช้มาตรการล็อคดาวน์เข้มงวด เมื่อห้างสรรพสินค้า สถานที่ทำงาน และระบบขนส่งสาธารณะกลับมาเปิดให้บริการบางส่วน จำนวนการติดเชื้อก็เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ประเทศพบการติดเชื้อมากถึงกว่า 5 หมื่นคนในช่วงไม่ถึง 4 สัปดาห์ ทำให้โรงพยาบาลต่าง ๆ ออกมาเตือนว่า ศักยภาพในการรองรับผู้ป่วยเริ่มเต็มอย่างรวดเร็วอีกครั้ง เหมือนเมื่อช่วงเดือนเมษายน
เมื่อวาน ทางการเปิดเผยว่า ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในรอบ 24 ชั่วโมงเพิ่มขึ้นอีก 5,032 คน มากที่สุดเท่าที่ประเทศเคยประสบมา และถือเป็นการทำลายสถิติฟิลิปปินส์ 4 วันติดต่อกัน ทำให้ประเทศมีผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 1 แสนราย โดยยอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 103,185 คน โดย 55,808 คน หรือมากกว่าครึ่ง อยู่ในเขตเมืองหลวง สำหรับยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 2,059 ราย และหายป่วยแล้ว 65,557 คน ฟิลิปปินส์มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นรองแค่อินโดนีเซีย และมีผู้ติดเชื้อมากกว่าจีนเสียอีก
และหลังจากที่ดูเตรเต ยังคงเดินหน้าผ่อนปรนมาตรการกักกันโรค และอนุญาตให้ธุรกิจมากขึ้น ซึ่งก็รวมถึงโรงยิม อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ร้านสัก กลับมาเปิดบริการได้ แกนนำองค์กรการแพทย์เกือบ 100 แห่ง ที่เป็นตัวแทนของแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ กว่า 1 ล้านคน ได้จัดการประชุมออนไลน์กันเมื่อวาน และออกมาเตือนว่าระบบสาธารณสุขของประเทศอาจล้ม เมื่อแพทย์และพยาบาลพากันติดเชื้อ รวมถึงพากันลาออกจากความหวาดกลัวการติดเชื้อระหว่างการทำงาน รวมถึงเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานหนัก หรือสภาพการทำงานที่เลวร้าย แต่ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยก็หลั่งไหลเข้ามาไม่หยุดหย่อน แพทย์และพยาบาลกำลังจะพ่ายแพ้ต่อโรค และได้ร่วมกันส่งจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดี
ทางกลุ่ม ระบุว่าระบบการดูแลทางการแพทย์มีภาระล้นมือจากกรณีการติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงมะนิลาและพื้นที่ปริมณฑล งานนี้ทางกลุ่มได้เรียกร้องให้รัฐบาล ออกมาตรการเพื่อควบคุมการระบาดของเชื้ออย่างเข้มงวดในเขตเมืองหลวงเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
ทางกลุ่มบอกว่า การผ่อนปรนมาตรการกักกันโรค เป็นการส่งเสริมความเข้าใจผิดของประชาชนที่คิดว่าสถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งมันไม่ใช่แบบนั้น
หลังได้รับเรื่อง ดูเตรเต้ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาข้อเสนอของกลุ่มแพทย์และพยาบาลทันที