svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

จราจร"เข้าพรรษา"ปีนี้ เข้มเมาไม่ขับ

02 กรกฎาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผู้ช่วย ผบ.ตร. "ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์" เป็นประธาน จัดกำลังตำรวจทั่วประเทศ รับมือการเดินทางของประชาชน ช่วงวันหยุด "อาสาฬหฯ - เข้าพรรษา" แบ่งงานดูแลสายหลัก - สายรอง จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เตรียมเปิดช่องทางพิเศษ เข้มมาตรการเมาไม่ขับ สั่งตรวจคนขับทุกราย หากเจอต่ำกว่า 18 ปี ลากคอร้านค้ามาดำเนินคดีด้วย

วันที่ 2 ก.ค.2563 พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เป็นประธานประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจาและงานป้องกันอุบัติเหตุทางถนน ช่วงวันหยุดยาว "อาสาฬหบูชา" และ "เข้าพรรษา" ระหว่างวันที่ 4-7 ก.ค.นี้ ซึ่งจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาว ส่งผลให้ปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีปริมาณรถมากขึ้นพอสมควร แต่คาดว่าน่าจะไม่มากเท่าช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว เนื่องจากปีนี้มีการแบ่งหยุดหลายช่วง
สำหรับแผนจัดการจราจร จะเน้นการจัดเตรียมกำลังพล อุปกรณ์เครื่องมือ และระบบสื่อสารเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชน ให้สามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย โดยมีตำรวจทางหลวงรับผิดชอบถนนสายหลัก และตำรวจพื้นที่ดูแลถนนสายรองต่างๆ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกข้อบังคับกำหนดช่องทางเดินรถขาขึ้นและขาล่อง ในถนนบางสายช่วงวันหยุดต่อเนื่องนี้ แบ่งเป็นขาขึ้น 9 จุด ระหว่างวันที่ 3-5 ก.ค. และขาล่องอีก 17 จุด ระหว่างวันที่ 6-8 ก.ค.โดยให้เปิดช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถในช่วงหนาแน่น อีกทั้งช่วงนี้ยังเป็นหน้าฝน
จึงกำชับให้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วและอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับเคลื่อนย้ายรถที่จอดเสีย หรือกีดขวางการจราจร รวมถึงเฝ้าระวังจุดเสี่ยงตามทางขึ้นเขา-ลงเขา, ถนนมิตรภาพ, ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 กบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว, และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 348 อรัญประเทศ-นางรอง

จราจร"เข้าพรรษา"ปีนี้ เข้มเมาไม่ขับ


ส่วนการบังคับใช้กฎหมายปีนี้ จะเน้นย้ำเรื่องการกวดขันเฝ้าระวังการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ สร้างความสูญเสียให้แก่ชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งจะต้องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในผู้ขับขี่ทุกราย และให้ดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดกับผู้กระทำความผิดกรณีเมาแล้วขับ  หากผู้กระทำความผิดเมาแล้วขับมีอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้ขยายผลดำเนินคดีกับผู้จำหน่ายสุราด้วย
ส่วนมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ได้ให้ตำรวจสายตรวจ ร่วมกับทหาร ฝ่ายปกครองและสาธารณสุข ออกตรวจสถานีขนส่ง ท่ารถโดยสารสาธารณะทุกประเภท แหล่งท่องเที่ยว และสถานที่จัดกิจกรรมทางศาสนา ซึ่งจะมีประชาชนจำนวนมากไปร่วมกิจกรรม โดยต้องมีการจัดระเบียบและลดความแออัดของประชาชน ให้เป็นไปตามมาตรการ รวมไปถึงประชาสัมพันธ์ร้านอาหารที่อยู่ตามปั๊มน้ำมัน ซึ่งจะเป็นจุดแวะพักของประชาชนจำนวนมากระหว่างเดินทาง ให้รักษาความสะอาด มีเจลแอลกอฮล์ และเว้นระยะห่างตามมาตรการอย่างเคร่งครัด

logoline