svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"หมอมนูญ" เผยที่มา หน้ากากทางการแพทย์-หน้ากากอนามัย

27 พฤษภาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC" เปิดประวัติหน้ากากทางการแพทย์และหน้ากากอนามัย มีใช้มาแล้วกว่า 123 ปี

ประวัติของหน้ากากทางการแพทย์และหน้ากากอนามัย
หมอผ่าตัดเริ่มใส่หน้ากากครั้งแรกขณะผ่าตัดเมื่อ 123 ปีที่แล้ว เดิมทีหมอผ่าตัดส่วนใหญ่ไม่ใส่หน้ากาก (ดูรูป) จนกระทั่งเมื่อ 115 ปีก่อน นักเรียนแพทย์ที่นั่งอยู่ในมุมหนึ่งของห้องผ่าตัด มองเห็นภายใต้แสงไฟ ละอองน้ำลายของหมอผ่าตัด ขณะพูดกับหมอผู้ช่วย และพยาบาลส่งเครื่องมือ กระเด็นลงในแผลผ่าตัด ทำให้แผลผ่าตัดติดเชื้อ หมอผ่าตัดทั่วโลกจึงเริ่มใส่หน้ากาก สมัยนั้นหน้ากากทำด้วยผ้าอ่านข่าวเพิ่มเติม >>สาวยูเครน ฉุนขาด!! ถอดกางเกงในสวนแทนหน้ากากอนามัย

"หมอมนูญ" เผยที่มา หน้ากากทางการแพทย์-หน้ากากอนามัย

เมื่อ 102 ปีก่อน มีการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่สเปนไปทั่วโลก ประเทศไทยมีคนป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่เดือน ต.ค.2461 สิ้นสุด มี.ค.2462 ราว 2 ล้าน 3 แสนคน เสียชีวิตประมาณ 8 หมื่นราย จากพลเมืองสยามเวลานั้น มีทั้งหมด 8 ล้าน 4 แสนคน ป่วยทั้งประเทศ 27% ตายเกือบ 1% ช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่สเปน คนใส่หน้ากากผ้ากันทั่วโลกประเทศไทยช่วง 100 ปีก่อน มีการระบาดของวัณโรคร่วมด้วย สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบิดาแห่งการแพทย์และสาธารณสุขไทยได้ทรงนิพนธ์บทความให้รู้วิธีป้องกันวัณโรคไม่ให้แพร่เชื้อไปติดคนอื่น เวลาไอ จาม ต้องปิดปากด้วยผ้า มือเปื้อนต้องล้างมือ เมื่อปี พ.ศ.2463 จุดประสงค์ของการใส่หน้ากากสมัยนั้นเพื่อป้องกันผู้อื่นมากกว่าเพื่อป้องกันตนเอง

"หมอมนูญ" เผยที่มา หน้ากากทางการแพทย์-หน้ากากอนามัย

การใส่หน้ากากผ้าไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่คนไทยไม่คุ้นเคย เมื่อ 19 ปีก่อน ผมได้ดูแลผู้ป่วยเป็นวัณโรคดื้อยา ผมขอร้องให้เขาใส่หน้ากากแต่เขาปฏิเสธ กลัวถูกคนอื่นรังเกียจ สมัยนั้นไม่มีใครใส่หน้ากากเดินในที่สาธารณะ หรือเวลามาโรงพยาบาลผมเกิดความคิดที่จะรณรงค์ให้คนไทยมีจิตสำนึก เมื่อตนเองป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ วัณโรค หรือโรคติดเชื้อใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ให้ใส่หน้ากากและล้างมือเมื่อมือเปื้อนน้ำมูกเสมหะ เพื่อป้องกันไม่ให้ไปติดผู้อื่น ถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม

สมัยนั้นคนไทยเรียกหน้ากากว่า "หน้ากากผ่าตัด" หรือหน้ากากปิดปากปิดจมูก ผมจึงตั้งชื่อใหม่ว่า "หน้ากากอนามัย" เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ในการรณรงค์ลดการแพร่เชื้อทางเดินหายใจให้ผู้อื่นด้วยการใส่หน้ากากอนามัย

"หมอมนูญ" เผยที่มา หน้ากากทางการแพทย์-หน้ากากอนามัย

เมื่อเริ่มรณรงค์ 18 ปีที่แล้ว ภายใต้ทุนวิจัยวัณโรคดื้อยาในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราขนครินทร์ ศิริราชมูลนิธิ ซึ่งผมเป็นประธาน โดยมีคุณเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ คุณนิโคล เทริโอ และศิลปินเด็กแกรมมี่ในขณะนั้นมาช่วยเป็นพรีเซนเตอร์ เราแจกฟรีทั้งหน้ากากผ้า แอลกอฮอล์เจล

"หมอมนูญ" เผยที่มา หน้ากากทางการแพทย์-หน้ากากอนามัย

"หมอมนูญ" เผยที่มา หน้ากากทางการแพทย์-หน้ากากอนามัย

ระยะแรกสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทยเห็นด้วย แต่หน่วยงานของรัฐ สมาคมที่ทำงานด้านวัณโรคและโรคปอดเห็นต่าง ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเห็นด้วย (ดูรูป) สมัยนั้นคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่กล้าใส่หน้ากากอ่านข่าวเพิ่มเติม >>โบอิ้ง 787 หรือ "เจ็ด-แปด-จอด" ? บทเรียนที่การบินไทยต้องจำหลังจากเริ่มรณรงค์ก็มีโรคระบาดใหม่ๆ เกิดขึ้นตามมา โรคซาร์ส โรคไข้หวัดนก โรควัณโรคดื้อยาหลายขนานชนิดรุนแรงมาก โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (เมอร์ส) คนไทยใส่หน้ากากอนามัยมากขึ้น และเริ่มติดปากคำว่าหน้ากากอนามัยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา คนไทยตื่นตัว กลัวฝุ่นพิษขนาดจิ๋ว PM 2.5 เราจึงเห็นคนไทยใส่หน้ากากมากขึ้นอีกในวันที่ค่าฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน แต่จุดประสงค์ของการใส่หน้ากากเพื่อป้องกันตนเองจากการหายใจฝุ่นพิษเข้าร่างกาย การใส่หน้ากากจึงกลายเป็นเรื่องปกติของสังคมไทย ไม่ใช่เรื่องที่น่ารังเกียจอีกต่อไป

"หมอมนูญ" เผยที่มา หน้ากากทางการแพทย์-หน้ากากอนามัย

ปัจจุบันเมื่อมีการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคที่น่ากลัว ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน วิธีป้องกันดีที่สุดคือ ใส่หน้ากากอนามัยทุกคนไม่ว่าจะเป็นหน้ากากผ้าหรือหน้ากากสีเขียวสีฟ้า หมั่นล้างมือก่อนเอามือมาแคะจมูก ขยี้ตา และเว้นระยะห่างคนไทยให้ความร่วมมือดีมากใส่หน้ากากเพื่อป้องกันตนเองและผู้อื่น ขอให้ทุกคนใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกนอกบ้าน หมั่นล้างมือ และเว้นระยะห่างต่อไปข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก :หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC

logoline