svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สธ. คาดการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 สิ้นเดือนเมษายน มี3,000 คน

18 เมษายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นายแพทย์ โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค เผย สถานการณ์โควิด-19 มีสัญญาณที่ดี เพราะวันนี้ไม่พบผู้เสียชีวิตรวมไปถึงมีผู้ป่วยกลับบ้านแล้วทั้งหมด 65% จากผู้ป่วยทั้งหมด และคาดการณ์ว่าสิ้นเดือนเมษายนจะพบผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งหมดประมาณ 3,000 คน

นายแพทย์ โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด -19 ในไทย ว่า วันนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นเนื่องจากมีผู้ป่วยกลับบ้านหายดีเพิ่มขึ้นเป็น 98 คน รวมทั้งหมด1,787 คน คิดเป็น 65% ของผู้ป่วยทั้งหมดในประเทศไทย ซึ่งมีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาลเพียง 899 คน ในจำนวนนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 10% และวันนี้ไม่พบผู้เสียชีวิตเนื่องจากช่วง 10 วันที่ผ่านมาทุกวันมี รายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด -19 ก็สอดคล้องกับลักษณะของโรคที่มีการระบาดพบผู้ป่วยจำนวนมากในประเทศไทย คือ ช่วงปลายเดือนมีนาคมและเดือนเมษายน ช่วงเวลานี้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก มีผู้ป่วยบางรายอาการรุนแรง รักษาต่อเนื่องมา2สัปดาห์ แต่ก็มีบางรายที่เสียชีวิต ส่วนการที่ผู้ป่วยมีอัตราการเสียชีวิตน้อยลงเป็นสัญญาณที่ดีแสดงว่า กลุ่มที่จะเริ่มหายป่วยมากขึ้น โดยไม่เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในระยะนี้ 

สธ. คาดการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 สิ้นเดือนเมษายน มี3,000 คน

เนื่องจากผ่านช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทยมาแล้ว สำหรับผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 33 คน 1ใน3ของกลุ่มนี้มีการติดตามอยู่แล้ว 11 ราย / ผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 10 คน คือ คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 2 คน / สัมผัสผู้เดินทางจากต่างประเทศ 1 คน / ไปสถานที่ชุมนุมชน เช่น ห้างสรรพสินค้า, ตลาดนัด, สถานที่ท่องเที่ยว 4 คน / อาชีพเสี่ยง 2 คน / บุคลากรทางการแพทย์ 1 คน / เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantines 2 คน และอยู่ระหว่างสอบสวนโรค 10 ราย ภาพรวมจะเห็นว่าการดำเนินงานในขนาดนี้ก็อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมสถานการณ์ของโรคได้ค่อนข้างดี จำนวนจังหวัดที่มีรายงานว่าไม่พบผู้ป่วยต่อเนื่องเป็นเวลา 14 วันมีเพิ่มขึ้น 2 จังหวัด คือ จ.ระยองและ จ.ตาก รวม 29 จังหวัด ที่ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ คือ เชียงราย, เพชรบุรี, เพชรบูรณ์, แพร่, แม่ฮ่องสอน, กาญจนบุรี, กาฬสินธุ์, จันทบุรี, นครนายก, บุรีรัมย์, มหาสารคาม, มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ราชบุรี, ลพบุรี, ลำพูน, ศรีสะเกษ, สมุทรสงคราม, สระบุรี, สุโขทัย, หนองคาย, หนองบัวลำภู, อำนาจเจริญ, อุดรธานี, อุตรดิตถ์, อุทัยธานี, ระยอง และตากส่วนจังหวัดที่ไม่เคยมีรายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 มาก่อนมี 9 จังหวัด คือ กำแพงเพชร, ชัยนาท, ตราด, น่าน, บึงกาฬ, พิจิตร, ระนอง, สิงห์บุรี, อ่างทองจะเห็นได้ว่ามีหลายจังหวัดเกือบครึ่งที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ถือว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทยสามารรถควบคุมโรคได้ดี แต่หลังจากนี้ทุกคนต้องช่วยกันในเรื่องของการรักษามาตรฐานที่ได้ผล เช่น การใช้หน้ากากผ้า / หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือบ่อยๆ การไม่ร่วมกลุ่มกันจะทำให้การแพร่เชื้อลดลงอีก และหวังว่าในช่วงก่อนจะถึงสิ้นเดือนเมษายนจะเห็นจำนวนผู้ป่วยลดลง และผู้เสียชีวิตไม่เพิ่มขึ้นก็จะทำให้มีความปลอดภัยในประเทศไทยมากขึ้นส่วนกรณีที่มีหลายหน่วยคาดการณ์ว่า วันที่ 15 เมษายน 2563 จะมีผู้ป่วยโควิด -19 ถึงหลักแสนคน 

สธ. คาดการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 สิ้นเดือนเมษายน มี3,000 คน

นายแพทย์ โสภณ ระบุว่า. กรมควบคุมโรค ได้คาดการณ์ ผู้ป่วยโควิด-19 ว่า วันที่ 15 เมษายน จะมีผู้ป่วย 7,445 คน ในประเทศไทย แต่พอถึงวันที่ 15 เมษายน 2563 พบว่าเรามี รายงานผู้ป่วยทั้งหมดเพียง 2,643 คน ถือว่าต่ำกว่าหลายหน่วยงานคาดการณ์ไว้ สาเหตุหลักมาจากมาตรการต่างๆที่รัฐบาลดำเนินการตั้งแต่เดือน มีนาคมเป็นต้นมา เช่น การใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ทำให้ลดการ่วมกลุ่ม จำกัดการเดินทาง ประชาชนมาความร่วมมือตามมาตรการต่างๆ เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม การใช้หน้ากากอนามัยเพิ่มมากขึ้นเมื่อออกสู่พื้นที่สาธารณะ รวมทั้ง การรณรงค์ป้องกันไม่ให้ติดเชื้อรายใหม่ เพราะฉะนั้นถ้าเปรียบเทียบกับตัวเลขที่เคยคาดการณ์ไว้ของกรมควบคุมโรคว่าจะมีผู้ป่วย 7,445 คน แต่พบผู้ป่วยโควิด-19 เพียง 2,643 คน ถือว่าเป็นเพียงแค่ 1 ใน 3 ที่คาดการณ์ไว้ แต่ถ้าดูไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายนซึ่งถ้ามีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอยู่หลัก 30 คน เราอาจจะมีผู้ป่วยประมาณ 3,000 คนคนในประเทศไทย แต่ก็ยังไม่สามารถประมาทได้เพราะโรคติดต่อทางเดินหายใจสามารถกลับมาได้ตลอดเวลา เพราะในต่างประเทศ โควิด-19 ยังแพร์ระบาดรุนแรงอยู่. ถ้าเรายังสามารถรักษามาตรการที่เข้มแข็งแบบนี้ต่อไปไว้ได้. เราก็ยังคงจำนวนผู้ติดเชื้อน้อยๆเพิ่มขึ้นต่อไปได้อีกแต่ก็กังวลว่า หลังวันที่ 30 เมษายน อาจจะทำให้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเปลี่ยนแปลงเพิ่มสูงขึ้นเพราะ มาตรการต่างๆจะเริ่มผ่อนปรน / จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเพิ่มเข้ามา ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

logoline