ครั้งเเรกในโลก! จีนเผยผลชันสูตรเหยื่อผู้เสียชีวิต ไวรัสโควิด-19

หลิว เหลียง ศาสตราจารย์จากวิทยาลัยการแพทย์ ถงจี ในเมืองอู่ฮั่น ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับรายงานผลการชันสูตรศพผู้ป่วยโรคโควิด-19 โดยทีมแพทย์ของศาสตราจารย์ หลิวทำการชันสูตรศพเหยื่อโควิด-19 ครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 ก.พ. และเผยแพร่รายงานเบื้องต้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้มีการผ่าชันสูตรศพรวมแล้ว 12 ราย ซึ่ง 9 รายดำเนินการโดยทีมแพทย์ของศาสตราจารย์หลิว 

ผลการศึกษาทางพยาธิวิทยาพบว่า โรคโควิด-19 มีความคล้ายคลึงกับโรคซาร์ส ที่ระบาดในช่วงปี 2545-2546 แต่โควิด-19 ก็มีคุณสมบัติเฉพาะของตัวเอง และจากผลการชันสูตรพบว่า โรคนี้สร้างความเสียหายให้กับส่วนปลายถุงลมปอดเป็นส่วนใหญ่ และมีมูกข้นเหนียวปริมาณมากที่ทางเดินหายใจและปอด ซึ่งมูกนี้ควรถูกกำจัดระหว่างการรักษา แต่มูกที่หลั่งออกมาข้นเหนียวมาก และติดกับปอดเหมือนกาว 
จึงอาจสะท้อนได้ว่าผู้ป่วยมีการหลั่งของมูกในระยะแรก แตกต่างจากการหลั่งน้ำมูกใสในไข้หวัดธรรมดาหรือการติดเชื้อไวรัส มูกนี้ถูกฝังลึกอยู่ในช่องทางเดินหายใจ และหากไม่ได้รับการรักษาที่ตรงจุด  ก็อาจส่งผลร้ายได้ 
ศาสตราจารย์หลิวย้ำด้วยว่า ข้อมูลจากการชันสูตรศพนี้มีความสำคัญมากที่จะช่วยให้นักวิจัยและแพทย์พัฒนาแผนการรักษาผู้ป่วยได้ดีขึ้น พร้อมกับอธิบายว่า ปอดปกติจะมีความยืดหยุ่นคล้ายฟองน้ำเพราะมีอากาศอยู่ข้างใน  แต่ปอดที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา
สายพันธุ์ใหม่จะเปลี่ยนไป เนื้อปอดจะแข็งขึ้นเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ข้างใน ดังนั้นจำเป็นต้องเข้าใจการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิวิทยาและให้การรักษาอย่างตรงจุด มิฉะนั้นจะเป็นการสูญเปล่า 
และเนื่องจากเรายังขาดข้อมูลด้านพยาธิวิทยาอย่างรอบด้านของโรคโควิด-19 นักวิจัยจึงไม่สามารถประเมินพยาธิกำเนิด หรือ ขั้นตอนที่นำไปสู่การเกิดโรค รวมถึงความเสียหายของอวัยวะที่เกิดจากโรค ศาสตราจารย์หลิวจึงเรียกร้องให้มีการชันสูตรศพผู้ป่วยโควิด-19 มากขึ้น แต่กระบวนการนี้ยังเป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะอาจเสี่ยงสัมผัสกับเชื้อไวรัสได้ ขณะนี้เรายังไม่รู้ว่าไวรัสจะแพร่ออกจากศพมากน้อยแค่ไหน ไวรัสแพร่ในอากาศได้หรือไม่ ซึ่งจะเป็นเรื่องอันตราย และการชันสูตรศพ 3 รายถือเป็นการชันสูตรผู้เสียชีวิตโควิด-19 ครั้งแรกในโลก มันเป็นงานที่ต้องทำ และในช่วงเวลาหายนะของโลกอย่างนี้ เขาอยากมีส่วนทำประโยชน์บางอย่างดีกว่าจะต้องละอายใจในภายหลัง