svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

"พาณิชย์" ดัน "ไม้ยูคาลิปตัส" เป็นหลักประกันธุรกิจ

17 กุมภาพันธ์ 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าถกหน่วยงานพันธมิตร กำหนดแนวทางส่งเสริมและผลักดันไม้ "ยูคาลิปตัส" ใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจให้เห็นผลเป็นรูปธรรม เผยสถาบันการเงินยังมีข้อติดขัด 2 ข้อ วิธีประเมินราคา การติดตามตรวจสอบต้นไม้ หากมีความชัดเจน พร้อมปล่อยกู้ และแจ้งสมาชิกให้เดินหน้า ด้านสมาคมการค้าชีวมวลไทย ชง "กระถินยักษ์" ต้นไม้ชนิดต่อไปที่ใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจ หลังโรงไฟฟ้าต้องการ

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเพื่อนำเสนอโครงการส่งเสริมไม้ยูคาลิปตัสเป็นหลักประกันทางธุรกิจร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ที่ดำเนินธุรกิจไม้ ตัวแทนเกษตรกร และสถาบันการเงินว่าบริษัท สยามฟอเรสทรี จำกัด ในเครือของ SCG ได้คัดเลือกเกษตรกรที่เป็นสมาชิกและมีคุณสมบัติตามโครงการมาร่วมนำเสนอแนวคิดให้สถาบันการเงินพิจารณาถึงเงื่อนไขและความเป็นไปได้ในการอนุมัติปล่อยสินเชื่อซึ่งระยะเวลาการปลูกจนสามารถตัดขายได้ของต้นยูคาลิปตัส อยู่ที่ 5 ปีแต่เกษตรกรอยากทราบว่าระหว่างปีที่ 3-5 ต้นไม้เริ่มเติบโตเห็นผลแน่นอนแล้วหากระหว่างนี้ เกษตรกรสนใจที่จะลงทุนปลูกเพิ่มในพื้นที่อื่นๆเพื่อให้มีอายุการตัดไล่เลี่ยกันและมีรายได้เข้ามาทุกปีจึงประสงค์นำต้นไม้รอตัดเหล่านั้นไปเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินได้หรือไม่

"พาณิชย์" ดัน "ไม้ยูคาลิปตัส" เป็นหลักประกันธุรกิจ


ทั้งนี้ สถาบันการเงินยังมีข้อติดขัด 2 ประการ คือ1.วิธีการประเมินราคาของไม้ยูคาลิปตัส 2.การติดตามตรวจสอบต้นไม้ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่นำมาใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจกับธนาคารนั้นจะยังคงสภาพอยู่ตลอดระยะเวลาการให้สินเชื่อหรือไม่พร้อมเสนอเป็นข้อพิจารณาให้กับทางบริษัท สยามฟอเรสทรี จำกัด ว่า ถ้าทางบริษัทหรือ SCGเข้ามาช่วยสนับสนุนใน 2 เรื่องที่กังวลอยู่ได้หรือไม่ขณะเดียวกันได้ขอให้ทางบริษัท สยามฟอเรสทรี ปรับโครงการให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นโดยมอบให้บริษัท สยามฟอเรสทรี ดำเนินการปรับปรุงโครงการให้มีความชัดเจนและมีความเป็นไปได้มากที่สุด ตามที่สมาคมธนาคารไทยได้ให้ข้อเสนอแนะไว้จากนั้นสมาคมธนาคารไทยจะเชิญธนาคารสมาชิกที่มีโครงการให้สินเชื่อกับเกษตรกรมาหารือในโอกาสต่อไปและกรมฯ จะเชิญหน่วยงานพันธมิตรกลับมาหารือเชิงลึกอีกครั้งในเร็วๆ นี้
ส่วนสมาคมการค้าชีวมวลไทยได้นำเสนอต้นไม้อีกชนิดหนึ่งเพื่อเป็นทางเลือก คือ กระถินยักษ์ซึ่งมีรอบตัดฟันสั้น แค่ 1.8 ปี ก็สามารถตัดขายได้ กำไรดี โดยทางสมาคมฯยินดีรับผลผลิตเข้าสู่โรงงานพลังงานไฟฟ้าชีวมวลเนื่องจากเป็นต้นไม้ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้ง เมล็ด ใบ และลำต้นอีกทั้งยังเป็นที่ต้องการของตลาดโดยจะเสนอให้พิจารณากระถินยักษ์เป็นไม้ชนิดต่อไปในการนำมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ
สำหรับผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ประกอบด้วยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า บริษัท สยามฟอเรสทรี จำกัด สมาคมการค้าชีวมวลไทยผู้แทนสมาคมธนาคารไทย พร้อมสมาชิกของสมาคม ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย กสิกรไทยไทยพาณิชย์ ยูโอบี ธนชาติ เกียรตินาคิน และธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย

หากสนใจ Lake Serene Bangkok 

เบอร์โทร  02-452-2888 หรือเข้าดูรายละเอียดที่หน้าเว็บของโครงการ https://www.lakeserenebangkok.com

logoline