ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายศรราม เทพพิทักษ์ ดารานักแสดงชื่อดัง ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ทรงพล อธิวัฒน์ธนานันท์ รอง สว.(สอบสวน) สน.สุทธิสาร หลังเงินในบัญชีได้หายไปร่วมหลายแสนบาท
นายศรราม เปิดเผยว่า ได้เปิดบัญชีฝากเงินกับธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาลาดพร้าว10 และมีบัตรเดบิตสำหรับถอนเงินสด แต่ไม่ได้เปิดทำธุรกรรมออนไลน์ ต่อมาวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ได้นำเงินฝากเข้าบัญชี จำนวน 1,100,000 บาท รวมมีเงินเหลือในบัญชี 1,105,750.49 บาท และในวันเดียวกันก็ได้นำบัตรเดบิตไปซื้อสินค้า แต่จำสถานที่ไม่ได้
ต่อมาวันที่ 14 มกราคมผ่านมา ได้นำสมุดบัญชีไปเบิกถอนเงินสด จำนวน 346,836.12 บาท ในธนาคารที่เปิดบัญชี และวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา ก็ได้นำบัตรเดบิตไปถอนเงินสดที่ตู้เอทีเอ็ม. ที่ตึกโอลิมเปียไทยพลาซ่า ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง และพบว่า เงินในบัญชีได้สูญหายไป ทั้งนี้ พบว่าเมื่อวันที่ 13 มกราคม เงินในบัญชีได้ถูกโอนออกไป 2 ครั้ง ครั้งละ 100,000 บาท และเมื่อวันที่ 14 มกราคม ก็โอนเงินออกไปอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 130,000 บาท รวมเงินที่หายไปทั้งสิ้น 450,00บาท ดังนั้น จึงได้มาแจ้งความเพื่อให้ตำรวจช่วยตรวจสอบ และติดตามเงินของตนที่หายไปจากบัญชี
ล่าสุดทางธนาคาร ได้ออกมาชี้แจง ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวทางสื่อออนไลน์หลายสำนักเรื่อง "คุณศรรามเทพพิทักษ์ โร่แจ้งความ เงินโอนออกจากบัญชีสูญเงินไปแล้วครึ่งล้าน" โดยบางแห่ง อ้างถึงธนาคารกสิกรไทย นั้น ธนาคารขอเรียนให้ทราบว่า ธนาคารได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการทำ รายการ พบว่าเป็นการทำรายการผ่านเครื่องเอทีเอ็ม ซึ่งกล้องวงจรปิต สามารถ บันทึกภาพผู้ทำรายการ เป็นคนใกล้ตัวของเจ้าของบัญชี และยืนยันว่าเหตุการณ์ ดังกล่าวไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของระบบธนาคารแต่อย่างใด ทั้งนี้ ธนาคารได้เรียนคุณศรราม ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีให้รับทราบแล้ว ตั้งแต่ วันที่ 15 มกราคม