BTS ควงแกรนด์ แอสเสทฯ ชิง'อู่ตะเภา' 2.9 แสนล้าน

โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก หรือ Eastern Airport City วงเงิน 2.9 แสนล้านบาท ใกล้จะได้ผู้ชนะการประมูลแล้ว หลังจากเข้าสู่กระบวนการเปิดซองราคาเอกชน 2 กลุ่ม ที่ผ่านการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิค หรือซองที่ 2 โดยคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนฯ ตั้งเป้าว่าจะลงนามสัญญาร่วมทุนในเดือนมกราคม 2563 หรือล่าช้าไป 8 เดือน จากเดิมที่คาดว่าจะลงนามสัญญาในเดือนพฤษภาคม 2562
พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนฯ ระบุ ขั้นตอนการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคได้ข้อสรุปแล้ว โดยมีเอกชน 2 กลุ่มผ่านเกณฑ์ประเมิน คือกลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส จอยท์เวนเจอร์ และกลุ่มแกรนด์ คอนซอร์เทียม ส่วนกลุ่มกิจการค้าร่วม บริษัทธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร หรือกลุ่มซีพี ไม่ผ่านการประเมิน
สำหรับรายละเอียดเอกสารซองที่ 2 ประกอบด้วยข้อเสนอด้านเทคนิคและข้อเสนอด้านแผนธุรกิจ เช่น การทบทวนแผนแม่บทสนามบิน แนวคิดการออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ความสามารถในการจัดหาเงินทุนเพื่อใช้ในการดำเนินโครงการ กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจเชิงพาณิชย์ ซึ่งเอกชนต้องได้คะแนนรวมไม่ต่ำกว่า 80% จึงจะผ่านการพิจารณา    
หลังจากนี้ คณะกรรมการคัดเลือกฯ จะส่งหนังสือแจ้งผลการพิจารณาไปยังเอกชนทั้ง 3 กลุ่ม ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป คือการพิจารณาข้อเสนอด้านราคาของกลุ่มบีบีเอส จอยท์เวนเจอร์ และกลุ่มแกรนด์ คอนซอร์เทียม โดยคาดว่ากระบวนการคัดเลือกเอกชนจะได้ข้อสรุปภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และตั้งเป้าลงนามสัญญาร่วมทุนกับผู้ชนะการประมูลในเดือนมกราคม 2563 
การที่กลุ่มยักษ์ใหญ่อย่างซีพี หลุดวงโคจรในโครงการประมูลสนามบินอู่ตะเภา ไม่ถือเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย เพราะกลุ่มซีพียื่นเอกสารบางส่วนเกินเวลาที่กำหนด คณะกรรมการคัดเลือกฯจึงไม่รับพิจารณาเอกสารดังกล่าว ซึ่งเป็นข้อเสนอด้านเทคนิค และแผนธุรกิจ รวมทั้งข้อเสนอด้านราคา 
ที่ผ่านมา กลุ่มซีพีแก้เกมโดยการยื่นฟ้องศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ รับเอกสารที่ยื่นเกินเวลา แต่ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง โดยระบุว่าเงื่อนไขการประมูลกำหนดไว้ชัดเจนว่า ห้ามคณะกรรมการคัดเลือกฯ รับข้อเสนอที่ยื่นหลังเวลาที่กำหนด การที่คณะกรรมการคัดเลือกฯมีมติไม่รับข้อเสนอบางส่วนที่ยื่นเกินเวลา จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย 
กลุ่มซีพีจึงเดินหน้ายื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งพลเรือเอกลือชัย ยืนยันว่า หากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด คณะกรรมการคัดเลือกฯ ก็พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งศาลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ความผิดพลาดของกลุ่มซีพีในการประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งเป็น Big Project ในโครงการอีอีซี จะมีผลสะเทือนไปถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง หรือไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบินมากน้อยเพียงใด เป็นเรื่องที่น่าติดตามอย่างยิ่ง เพราะทั้ง 2 โครงการนี้มีความเชื่อมโยงกัน และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีทีท่าว่ากลุ่มซีพีจะเซ็นสัญญาไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน แม้จะได้รับการประกาศให้เป็นผู้ชนะประมูลตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน จะต้องติดตามว่าคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะมีวิธีการอย่างไรในการเปิดซองราคาโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เพราะเป็น โครงการ ขนาดใหญ่ และจะเกิดปัญาที่จะทำให้เกิดความล่าช้าซ้ำรอยไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบินหรือไม่
ทีมข่าวเศรษฐกิจ เนชั่นทีวี รายงาน