ทั้งนี้เงินส่วนต่างที่เกษตรกรได้รับในงวดแรก คือ 11,987.25 บาท ขาดไปไม่กี่บาทก็จะครบ 12,000 บาท ซึ่งเป็นเงินส่วนต่างที่คำนวณจากราคาประกันรายได้ที่4 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) และราคาตลาดอยู่ที่ 2.68 บาทต่อกก. จึงมีส่วนต่างอยู่ที่1.32 บาทต่อกก. แล้วนำไปคูณกับจำนวนผลผลิตต่อไร่ ไม่เกิน 25 ไร่ แล้วหารเฉลี่ย 8งวด จึงเป็นที่มาของเงินส่วนต่างในครั้งนี้ ส่วนงวดต่อไป จะจ่ายหลังจากนี้อีก 45วัน ซึ่งราคาส่วนต่างจะเท่าไร ยังบอกไม่ได้ ขึ้นอยู่กับราคาตลาดขณะนั้น
ราคาที่คำนวณล่าสุดคิดจาก1.32บาทต่อกก.คูณด้วย25ไร่ คูณ363.25กก. เท่ากับจะได้รับเงิน11,987.25บาทโดยตัวเลข363.25 บาท หารมาจากจำนวนผลผลิตต่อไร่ที่กำหนดไว้ที่ 2,906 กก.ต่อไร่ 8 งวด
"ที่ทำการเปิดตัวการจ่ายเงินประกันรายได้งวดแรกให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์มในครั้งนี้ต้องการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มได้รับทราบข่าวอย่างทั่วถึงว่ารับบาลได้ให้ธ.ก.ส.โอนเงินประกันรายได้งวดแรกเข้าบัญชีของเกษตรกรผู้มีสิทธิตามโครงการทุกท่านแล้วหากยังมีเกษตรกรรายใดที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรหรือยังไม่ได้ปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรเดิมที่ขึ้นไว้แล้วก็ขอให้รีบติดต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ รวมทั้งขอเปิดบัญชีกับ ธ.ก.ส.ที่สาขาใกล้บ้านท่านเพื่อรับสิทธิตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันในงวดต่อไปที่จะจ่ายให้เป็นงวดๆ ละประมาณ 45 วันต่อไป"นายจุรินทร์กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่าการประกันรายได้สินค้าเกษตร เป็นนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่25 ก.ค.2562และรัฐบาลให้ความสำคัญเพื่อช่วยเหลือด้านรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกสินค้าเกษตรโดยมอบกระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบสินค้าข้าว ปาล์มน้ำมันข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง ส่วนยางพารา มีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้รับผิดชอบซึ่งผลการทำงานล่าสุด ได้จ่ายเงินงวดแรกสินค้าปาล์มน้ำมันแล้ว ใช้ระยะเวลา 77 วันและกำลังจะจ่ายเงินส่วนต่างข้าว วันที่ 15 ต.ค.2562