svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ไต่สวนคดีฟอกเงินกู้แบงก์กรุงไทย โอ๊ค ยื่นคำให้การใหม่เพิ่มเติม

24 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ไต่สวนพยานโจทก์นัดแรก คดีฟอกเงินกู้แบงก์กรุงไทย โดยพยานโจทก์เปิดคดี เส้นทางการเงิน เสี่ยวิชัย ถึง พานทองแท้ โดยไม่พบการทำธุรกิจร่วมกัน ขณะที่บุตรชายอดีตนายกฯ ได้ยื่นคำให้การใหม่เพิ่มเติม พร้อมย้ำไม่มีเจตนาฟอกเงิน และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

เช้าวันนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนนครไชยศรี ได้นัดไต่สวนพยานโจทก์นัดแรก คดีฟอกเงินกู้แบงก์กรุงไทย ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโตของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5 , 9 , 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ 91โดยอัยการยื่นฟ้อง

ไต่สวนคดีฟอกเงินกู้แบงก์กรุงไทย โอ๊ค ยื่นคำให้การใหม่เพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 10 ต.ค.61 จากกรณี "นายพานทองแท้" รับโอนเงินเป็นเช็คจำนวน 10 ล้านบาทเข้าบัญชี ซึ่งมีการกล่าวหาว่าเงินนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำจากการทุจริตปล่อยกู้สินเชื่อระหว่างธนาคารกรุงไทยฯ กับเอกชนกลุ่มกฤษดามหานคร ที่มีนายวิชัย กฤษดาธานนท์ อายุ 80 ปี ผู้บริหารกฤษดามหานคร กับนายรัชฎา กฤษดาธานนท์อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของนายวิชัย และอดีตคณะผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ตกเป็นจำเลยในคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้จำคุกนายวิชัยและนายรัชฎา บุตรชายคนละ 12 ปีร่วมกับพวก โดยในส่วนของนายวิชัย , นายรัชฎา บุตรชาย และกลุ่มอดีตกรรมการบริษัทเอกชนในเครือกฤษดา รวม 6 คนนั้น ก็ถูกอัยการ ยื่นฟ้องความผิดฟอกเงินการทุจริตปล่อยกู้ดังกล่าวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเช่นกันด้วยโดยชั้นศาล นายพานทองแท้ จำเลย ก็ให้การปฏิเสธสู้คดีว่าไม่ได้กระทำผิดตามฟ้อง ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นที่ได้ร่วมลงทุนกับนายรัชฎา บุตรชายของนายวิชัย อดีตผู้บริหารกฤษดามหานครสำหรับครึ่งวันเช้า ศาลได้ไต่สวนพยานอัยการโจทก์ 1 ปากเสร็จสิ้นคือนายสุนทรา พลไตร ผู้อำนวยการส่วนบริหารทรัพย์สิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ในฐานะผู้กล่าวหาคดีนี้ ได้เบิกความตอบคำถามศาลสรุปว่าในการตรวจสอบคดีนี้ช่วงปี 2559-2560 พยานเป็นผู้อำนวยการส่วนข้อมูลคดีและมาตรการพิเศษทางกฎหมาย ป.ป.ง. โดยได้ตรวจสอบเอกสารจากการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินและที่พยานเห็นว่ามีการร่วมกันฟอกเงินเลยระหว่างจำเลยกับ นายวิชัยเนื่องจากมีการรับโอนและโยกย้ายเงินในหลายบัญชี ซึ่งในส่วนของจำเลยมีการนำเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพต่างสาขาระหว่างบางพลัดและซอยอารีย์ ขณะที่ทั้งสองก็ไม่ได้มีนิติสัมพันธ์ใดๆกันทางธุรกิจ นอกจากนี้ยังพบว่า จำเลยได้โอนเงิน 10 ล้านบาทคืน นายวิชัย เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับผู้บริหารธนาคารกรุงไทยและนายวิชัย เมื่อปี 2548ส่วนที่มีการระบุว่าจำเลยทำธุรกิจรถยนต์กับนายรัชฎา บุตรชายของนายวิชัยนั้น ก็ไม่น่าเชื่อถือ โดยการตรวจสอบเชื่อว่าการรับโอนเงินระหว่างจำเลยและนายวิชัย เป็นการให้ค่าตอบแทนบางประการ หลังจากที่นายวิชัย ได้รับเงินปล่อยกู้จากธนาคารกรุงไทย ซึ่งบิดาของจำเลย คือ นายทักษิณ ชินวัตร ในขณะนั้น ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งการตรวจสอบเส้นทางการเงินก็ดูจากต้นเงิน ที่เมื่อธนาคารกรุงไทย ได้ปล่อยกู้ ให้กับ บริษัทโกลเด้น อินดัสเตรียล พาร์ค แล้ว จนผ่านไปถึงนายวิชัย จากนั้นจำเลยก็ได้รับเช็คโอนเงินเข้าบัญชี 10 ล้านบาท จากนายวิชัย / ส่วนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายกฟ้อง นายทักษิณ จากคดีอนุมัติให้ธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้นั้น จะด้วยเหตุผลใด อย่างไร พยานไม่ทราบ เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องในคดีทั้งนี้ เมื่อพยานโจก์ปากแรก เบิกความเสร็จช่วงเที่ยงเศษ ศาลได้นัด ไต่สวนพยานโจทก์ปากที่ 2 ในเวลา 13:30 น. / อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ นายพานทองแท้ ในฐานะจำเลย ได้ยื่นคำให้การใหม่เพิ่มเติม

ไต่สวนคดีฟอกเงินกู้แบงก์กรุงไทย โอ๊ค ยื่นคำให้การใหม่เพิ่มเติม

logoline