โดยในเวลา 15.00 น.นายกรัฐมนตรีจะรับฟังการบรรยายสรุปการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 74 และกิจกรรมอื่นๆ ของนายกรัฐมนตรีจากนั้นนายกรัฐมนตรีและภริยาจะพบปะชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา จำนวน 175 ราย ณโรงแรมพลาซา แอทธินี ซึ่งเป็นโรงแรมที่พัก โดยชุมชนไทยในสหรัฐฯ ประกอบด้วย หัวหน้าสำนักงานทีมประเทศไทยในนครนิวยอร์กเครือข่ายสมาคมและชมรมคนไทย กลุ่มนักวิชาชีพชาวไทยในรัฐนิวยอร์กและรัฐใกล้เคียงผู้แทนสมาคมนักวิชาชีพไทยในสหรัฐฯ และแคนาดา นักศึกษาไทยในสหรัฐและผู้สื่อข่าวไทยประจำนครนิวยอร์ก
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ายินดีที่ได้พบปะพูดคุยกับชุมชนไทยเพื่อแจ้งถึงสถานการณ์ประเทศไทยนโยบายรัฐบาล รวมถึงรับทราบทุกข์สุข ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชนการเดินทางมานครนิวยอร์กครั้งนี้ มีภารกิจสำคัญหลายภารกิจ อาทิการประชุมระดับสูงว่าด้วยหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งเป็นเรื่องที่ไทยมีความก้าวหน้าโดดเด่นและได้รับความไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานร่วมกับจอร์เจียเพื่อเจรจาร่างปฏิญญาทางการเมืองการเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและการประชุมClimateAction Summit
ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะกล่าวถ้อยแถลงในนามอาเซียน เป็นโอกาสดีที่ไทยจะได้นำเสนอจุดแข็งพร้อมแสดงบทบาทนำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในเวทีระดับโลกซึ่งสอดคล้องกับหัวข้อหลักของการเป็นประธานอาเซียนของไทย "ร่วมมือร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน" การกล่าวสุนทรพจน์ที่ AsiaSociety และ USABC เพื่อแจ้งถึงพัฒนาการต่างๆของประเทศไทย วิสัยทัศน์ของรัฐบาล และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน
ตลอด 5ปีที่ผ่านมารัฐบาลดำเนินนโยบายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน โดยดำเนินการปฏิรูปทั้งด้านการเมืองเศรษฐกิจ และสังคม และได้ออกกฎหมายและปรับปรุงกฎหมายรวมกว่า 400ฉบับเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปและเอื้ออำนวยต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศนอกจากนี้รัฐบาลยังพยายามแก้ไขปัญหาสังคมที่คั่งค้างมานาน เช่น ปัญหาการค้ามนุษย์ปัญหาแรงงานโดยมีเป้าหมายสำคัญคือการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เน้นการแก้ไขปัญหาในการดํารงชีวิตและการปรับปรุงระบบสวัสดิการเพื่อประชาชนโดยมีแผนดำเนินการที่เป็นรูปธรรม อีกสิ่งสำคัญที่รัฐบาลมุ่งเน้นก็คือการพัฒนาเศรษฐกิจซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารประเทศ
เนื่องจากเศรษฐกิจที่ดีจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนสานต่อการพัฒนาและสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจตามวิสัยทัศน์ประเทศไทย 4.0 บนรากฐานการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยให้ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี และการสร้างสรรค์ โดยเดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตใน 10+2 สาขาส่งเสริมเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ EECโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะและเมืองนวัตกรรม (smart cities) ในจังหวัดหลัก ๆ ทั่วประเทศซึ่งจะช่วยสร้างงานและอาชีพต่อเนื่องในอีกหลายประเภท
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่สุดให้มีความพร้อมไปสู่ศตวรรษใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลงส่งเสริมให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้กำหนดนโยบายการศึกษาเป็นวาระเร่งด่วนในทุกระดับส่งเสริมโอกาสทางเศรษฐกิจของเกษตรกรและแรงงานในภาคส่วนต่างๆ เพื่อลดช่องว่างรายได้ กำหนดมาตรการสนับสนุนเพื่อแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำสำหรับการรับมือกับสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและไม่แน่นอนรวมทั้งสภาวะเศรษฐกิจโลกมีความผันผวนจากความขัดแย้งกีดกันทางการค้าระหว่างชาติมหาอำนาจรัฐบาลได้เตรียมมาตรการรับมือไว้ในหลายลักษณะ เช่นการเจรจาข้อตกลงทางการค้าอาเซียน+6 หรือที่เรียกว่า RCEPการแสวงหาและร่วมมือกับคู่ค้าคู่ลงทุนใหม่ๆ ในภูมิภาค
นายกรัฐมนตรีมีความภาคภูมิใจและยินดีที่ได้เห็นคนไทยที่นี่เป็นพลเมืองที่ดีของสหรัฐอเมริกาประกอบอาชีพและธุรกิจที่ได้รับการยอมรับและมีสิทธิเสรีภาพทัดเทียมกับชาวอเมริกันอย่างไรก็ดีเชื่อมั่นว่าทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศไทยได้แม้จะพำนักและทำงานอยู่ในสหรัฐอเมริกาที่สำคัญขอให้มีความสามัคคีเพื่อนำเสนอประเทศไทยในทางบวกและสร้างความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยและแสดงเอกภาพและศักยภาพของชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกาให้เป็นที่ประจักษ์พร้อมแสดงความขอบคุณชุมชนไทยในสหรัฐฯทุกคนสำหรับกำลังใจและการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลเพื่อร่วมกันนำพาประเทศไทยไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน