svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Health

"ดื่มแก้หนาว" ความเชื่อที่ผิด เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

อากาศหนาวอย่าดื่มแก้หนาว เสี่ยงอุณหภูมิกายต่ำ กดประสาท หัวใจทำงานหนัก อาจเสียชีวิตโดยไม่รู้ตัว แนะ 5 วิธีปฏิบัติตนรับมืออากาศหนาว

KEY

POINTS

  • การดื่มแอลกอฮอล์เพื่อแก้หนาวเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะแม้จะทำให้รู้สึกร้อนวูบวาบ แต่แท้จริงแล้วเป็นการเร่งให้ร่างกายสูญเสียความร้อนเร็วยิ่งขึ้น
  • ความรู้สึกร้อนหลังดื่มเกิดจากหลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัว ซึ่งเป็นการระบายความร้อนออกจากร่างกาย ไม่ใช่การสร้างความอบอุ่น
  • การดื่มสุราในสภาพอากาศหนาวเย็นมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะอุณหภูมิกายต่ำ (Hypothermia) ซึ่งอาจทำให้หัวใจทำงานผิดปกติ ช็อก และเสียชีวิตได้
  • ผู้ที่ดื่มแล้วเผลอหลับในที่อากาศเย็นโดยไม่มีเครื่องนุ่งห่มเพียงพอ มีความเสี่ยงเสียชีวิตสูงจากการสูญเสียความร้อนอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว

เมื่อประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว อุณหภูมิที่ลดต่ำลง โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน ทำให้หลายคนมองหาวิธีคลายหนาวอย่างเร่งด่วน หนึ่งในความเชื่อที่พบได้บ่อยคือ “ดื่มแอลกอฮอล์แก้หนาว” เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ผ่อนคลาย และลดอาการปวดเมื่อยได้ แต่ในความเป็นจริง ความเชื่อนี้ไม่เพียงผิดพลาด หากยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้

ทำไม “ดื่มเหล้าแก้หนาว” ถึงเป็นความเชื่อที่ผิด

หลังจากดื่มแอลกอฮอล์ หลายคนจะรู้สึกร้อนวูบวาบ หน้าแดง และเข้าใจว่าร่างกายอบอุ่นขึ้น แท้จริงแล้วอาการดังกล่าวเกิดจาก เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัว ทำให้เลือดไหลเวียนมาที่ผิวหนังมากขึ้น ความร้อนจึงถูกระบายออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น ไม่ใช่การเพิ่มความอบอุ่นจากภายในอย่างที่เข้าใจกัน

ยิ่งดื่มแอลกอฮอล์มากเท่าไร การสูญเสียความร้อนก็ยิ่งมากขึ้น ส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ โดยเฉพาะในสภาพอากาศหนาวเย็น ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรง ได้แก่

  • ภาวะอุณหภูมิกายต่ำ (Hypothermia) ร่างกายสูญเสียความร้อนเร็วกว่าที่สร้างได้ ทำให้อุณหภูมิภายในลดต่ำกว่าปกติ
  • กดประสาทส่วนกลาง ทำให้ง่วง ซึม หมดสติ รับรู้ความหนาวได้น้อยลง
  • หัวใจทำงานหนักผิดปกติ เสี่ยงต่อภาวะช็อกและเสียชีวิต
  • สมรรถนะในการตัดสินใจและการเคลื่อนไหวลดลง เพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ โดยเฉพาะการขับขี่ยานพาหนะ

ในหลายกรณีที่เกิดขึ้นจริง ผู้เสียชีวิตมักเป็นผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากแล้วนอนหลับกลางแจ้งหรือในที่อากาศหนาว โดยไม่ได้ห่มผ้า ทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว

กลุ่มเสี่ยงต้องระวังเป็นพิเศษ

อากาศหนาวส่งผลกระทบต่อร่างกายทุกคน แต่บางกลุ่มมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป ได้แก่

  • เด็กเล็ก ที่ระบบควบคุมอุณหภูมิยังพัฒนาไม่สมบูรณ์
  • ผู้สูงอายุ ที่ร่างกายปรับตัวต่อความเย็นได้ช้าลง
  • ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคปอด เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง

กลุ่มเหล่านี้หากดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงอากาศหนาว จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะอันตรายและการเสียชีวิตมากขึ้น

วิธีดูแลตัวเองให้ปลอดภัยในช่วงอากาศหนาว

แทนที่จะพึ่งแอลกอฮอล์ ทุกคนดูแลตนเองอย่างถูกวิธีด้วยแนวทางต่อไปนี้

  1. สวมเสื้อผ้าให้ความอบอุ่นเพียงพอ ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะบริเวณศีรษะ ลำคอ หน้าอก รวมถึงถุงมือและถุงเท้า
  2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในน้ำเย็นหรือสวมเสื้อผ้าเปียกชื้นเป็นเวลานาน เพราะจะเร่งการสูญเสียความร้อน
  3. หลีกเลี่ยงการออกไปสัมผัสอากาศหนาวจัด หากจำเป็นต้องออก ควรแต่งกายให้รัดกุมและอบอุ่น
  4. งดดื่มแอลกอฮอล์เพื่อแก้หนาวโดยเด็ดขาด เพราะเป็นปัจจัยเสริมสำคัญที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
  5. ดูแลเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรังเป็นพิเศษ คอยสังเกตอาการผิดปกติและให้ความอบอุ่นอย่างเหมาะสม

ความอบอุ่นที่แท้จริง เริ่มจากการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี

อากาศหนาวอาจทำให้หลายคนโหยหาความอบอุ่นแบบเร่งด่วน แต่การดื่มแอลกอฮอล์ไม่ใช่คำตอบที่ปลอดภัย ตรงกันข้ามกลับเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตผู้คนทุกปี การเลือกสวมเสื้อผ้าให้เหมาะสม ดูแลร่างกาย และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง คือวิธีที่ดีที่สุดในการผ่านฤดูหนาวไปอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพดี