svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

กินเจ....อย่างไรให้สุขภาพดี

21 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เทศกาลกินเจปีนี้ 2562 จะตรงกับวันเสาร์ที่ 28 กันยายน ไปจนถึงวันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม รวมเป็นเวลา 9 วัน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ให้คำแนะนำว่ากินเจอย่างไร จะทำให้สุขภาพดี

ในช่วงกินเจเราอย่าลืมว่าอาหารเจส่วนใหญ่อุดมไปด้วยแป้ง ดังนั้น หากเป็นไปได้พยายามเน้นรับประทานผัก เต้าหู้ ด้วยการปรุงสุกแบบต้ม และนึ่ง เพื่อสุขภาพที่ดีและรูปร่างที่ไม่อ้วนกันเถอะ ช่วงกินเจงดรับประทานเนื้อสัตว์ และยังมีโปรตีนจากพวกถั่ว เต้าหู้ ฟองเต้าหู้ และโปรตีนเกษตรเป็นอาหารทดแทนเพื่อสุขภาพอีกทางหนึ่ง สำหรับเครื่องปรุงอาหารเจหลักๆ จะเป็นซอส ซีอิ๊ว น้ำตาล ซึ่งหากเราเป็นคนที่ชอบกินอาหารรสจัดก็อาจเผลอปรุงรสอาหารเจด้วยเครื่องปรุงเหล่านี้มากเกินปกติ อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคไตได้ ฉะนั้น เราควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปรุงรสไม่ให้เค็ม ไม่มัน และ ไม่หวานจัด

กินเจ....อย่างไรให้สุขภาพดี


การปฏิบัติตัวในการกินเจเพื่อสุขภาพดี
1. เลือกกินข้าวหรือแป้งที่ไม่ขัดขาวอย่างข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี ขนมปังโฮลวีท ลูกเดือย และธัญพืชต่าง ๆ ซึ่งปริมาณน้ำตาลไม่สูงมากเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำตาลในแป้งขัดขาว

2. รับประทานอาหารที่มีถั่วหรือผลิตภัณฑ์จากถั่ว เช่น เต้าหู้ น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง ฟองเต้าหู้ โปรตีนเกษตร งา และเห็ดต่างๆ เพื่อเสริมโปรตีน เน้นข้าวกล้อง

กินเจ....อย่างไรให้สุขภาพดี

3. เลือกผักใบมากกว่าพืชหัว เพราะผักใบมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตน้อยกว่าพืชหัวมาก และปริมาณแป้งน้อยกว่า

4. เลือกกินอาหารประเภทนึ่ง ต้ม ตุ๋น อบ ยำ ที่มีผักเป็นส่วนประกอบ เช่น ลาบเต้าหู้ น้ำพริกเจ ผักเคียง ต้มจืดเจ ต้มยำเจ พะโล้เจ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์แป้งเลียนแบบเนื้อสัตว์

5. หลีกเลี่ยงอาหารประเภทผัดน้ำมันเยิ้ม ทอด เพราะมีไขมันสูง หากได้รับมากเกินความจำเป็นของร่างกายจะทำให้น้ำหนักเกินและอ้วนได้


6. ลดอาหารหวาน มัน เค็ม โดยเฉพาะน้ำมันในการปรุงอาหาร ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน

กินเจ....อย่างไรให้สุขภาพดี



7. การรับประทานผักที่มีกากใยมาก ๆ เช่น ผักบุ้ง ผักคะน้า ตำลึง ถั่วงอก ผักกระเฉด ผักกวางตุ้ง

8. ผักและผลไม้สดก่อนนำไปปรุงอาหาร ควรล้างให้สะอาดทุกครั้งเพื่อป้องกันสารเคมีตกค้างหรือการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่ให้ล้างด้วยน้ำไหล แช่ในน้ำนาน 15 นาที หรือแช่ในน้ำผสมน้ำส้มสายชู 5% แช่นาน 15 นาที หรือใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต ครึ่งช้อนโต๊ะผสมน้ำ 10 ลิตร แช่ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด ซึ่งทั้ง 3 วิธีนี้จะช่วยลดสารเคมีตกค้างได้

logoline