เขื่อนเจ้าพระยาวิกฤติ ปริมาณน้ำต่ำกว่าเกณฑ์

ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 สุรชาติ มาลาศรี บอกว่าระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติกว่า 1 เมตร ขณะที่ปริมาณน้ำ inflow บริเวณสถานีวัดน้ำ C2  มีน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 257 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งสถานการณ์ปกติควรจะมีน้ำไหลผ่านอยู่อย่างน้อย 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นผลโดยตรงมาจากการลดการระบายน้ำจากเขื่อนใหญ่ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ที่ต้องเร่งกักเก็บไว้ใช้ปีหน้าและช่วงนี้พอจะมีฝนตกลงมาในพื้นที่เกษตรลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาบ้าง อย่างไรก็ตามแม้ จะอยู่ช่วงปลายฤดูฝน แต่ระดับน้ำในลำน้ำเจ้าพระยายังถือว่ามีน้อย การส่งน้ำเข้าไปยังคลองฝั่งซ้ายและฝั่งขวา เหนือเขื่อนทดน้ำเจ้าพระยาต้องใช้เครื่องสูบน้ำ

ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 ย้ำว่า  แม้ช่วงนี้เราจะได้ยินข่าวฝนตกหนักในภาคเหนือทั้งฝั่งต้นน้ำปิงที่จังหวัดเชียงใหม่และต้นน้ำน่านที่จังหวัดน่านจนเกิดภาวะน้ำป่าไหลหลาก แต่ก็เป็นช่วงปลายฤดูฝนที่จะต้องลุ้นให้น้ำไหลเข้าเขื่อนไปจนถึงสิ้นฤดูฝนในเดือนตุลาคม หากน้ำมีไม่ถึงเกณฑ์ก็พยากรณ์ได้ว่าปีหน้าจะเกิดภัยแล้งอย่างแน่นอน อีกทั้งสถานการณ์สถานการณ์น้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยาในขณะนี้ก็บ่งบอกได้ว่าหลังจากสิ้นฤดูการเก็บเกี่ยว ในสิ้นเดือนสิงหาคม ขอให้ชาวนางดปลูกข้าวรอบใหม่ เพราะไม่มีน้ำส่งไปช่วยเพื่อการทำการเกษตรอย่างแน่นอน 

สำหรับพื้นที่อยู่ในขอบเขตของการส่งน้ำของสำนักชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา รวม 5 จังหวัดครอบคลุมพื้นที่ 2.6 ล้านไร่ ซึ่งลุ่มเจ้าพระยาทำนาเป็นเกษตรอุตสาหกรรม หาก 1 ปีมี 12 เดือน ถ้า 1 รอบการผลิตใช้เวลา 4 เดือน ถ้ามีน้ำบริบูรณ์เต็มที่ชาวนาที่นี่จะสามารถทำนาได้ถึง 3 ครั้ง แต่จากสถานการณ์ล่าสุด หลังสิ้นฤดูเกี่ยวข้าวเสร็จในสิ้นเดือนสิงหาคม กรมชลย้ำว่า ชาวนาต้องงดปลูกข้าวรอบใหม่อย่างเด็ดขาด