svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

อดีตปธ.หอการค้าอินโดฯ-ไทยแจ้งจับ'สุภา'กับพวก พัวพันสินบน

08 สิงหาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

แนนซี่ มาร์ตาสุตา (Nancy Martasuta) อดีตประธานหอการค้าอินโดนีเซีย-ไทยแจ้งจับ สุภา ปิยะจิตติ- รสยา เธียรวรรณ กับพวก ติดสินบนพยานเพื่อให้การเท็จ สอบพยานไม่ชอบด้วยกฎหมาย สร้างพยานหลักฐานเท็จ

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2562 ที่ประเทศอินโดนีเซีย นางแนนซี่ มาร์ตาสุตา (Nancy Martasuta) อดีตประธานหอการค้าอินโดฯ ไทย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อหัวหน้าสถานีตำรวจท้องที่ Depok ให้ดำเนินคดีกับ เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ของไทย นางสาวสุภา ปิิยะจิตติ , นายอัครกิตติ์ กีรติธนาไชยยศ , นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ , นายสิญภพ รูปเตี้ย และนางสาววิไลลักษณ์ ศรีสุขใส และ นางรสยา เธียรวรรณ ผู้บริหาร บริษัท PTTGE ในข้อหาให้สินบนพยานเพื่อสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ สอบพยานที่ประเทศอินโดนีเซียโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

อดีตปธ.หอการค้าอินโดฯ-ไทยแจ้งจับ'สุภา'กับพวก พัวพันสินบน


โดยนางแนนซี่ กล่าวหาว่า ในเรื่องการให้สินบนพยานเพื่อสร้างพยานหลักฐานเท็จ นั้น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2560 นางรสยา เธียรวรรณ ได้เข้าพบนายเบอร์ฮันนุดดิน (Burhanuddin) ผู้ร่วมลงทุนใน โครงการ พีทีเคพีไอ (PTKPI) ที่สำนักงานของนายเบอร์ฮันนุดดิน ที่จาการ์ตา ที่ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อนำส่งถุงสินบน ที่ได้จัดเตรียมมามอบไว้ให้กับนายเบอร์ฮันนุดดิน ก่อนที่ป.ป.ช.ประเทศไทยจะเข้าสอบสวนอย่างเป็นทางการเพียง 48 ชั่วโมง ซึ่งนางแนนซี่เป็นประจักษ์พยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์แต่เพียงผู้เดียว และอ้างว่านายเบอร์ฮันนุดดินได้แจ้งกับเธอว่า "ของขวัญสินบนนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเพราะมันเป็นข้อห้าม นางรสยาไม่สามารถทำเช่นนี้กับผม ตั้งแต่ผมรู้จักเธอมาเป็นเวลาหลายปี, วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธอให้ของขวัญผม "
นางแนนซี่ ยังกล่าวหาต่อไปว่า แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของนางรสยา ที่มีวัตถุประสงค์ในการติดสินบน โน้มน้าว จูงใจ ให้นายเบอร์ฮันนุดดิน ให้ถ้อยคำในการสอบสวนเพื่อเป็นไปตามแผน ความต้องการ เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของนางรสยา เพื่อใส่ร้ายป้ายสี และใส่ความบุคคลอื่นโดยปราศจากหลักฐานที่ถูกต้อง ซึ่งนางรสยา ไม่มีหน้าที่ที่จะต้องไปพบนายเบอร์ฮันนุดดิน แต่อย่างใด เนื่องจาก บริษัท พีทีทีจีอี ได้ขายโครงการ PT.KPI ให้กับนายเบอร์ฮันนุดดินเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วในเดือนสิงหาคม 2558 และยังอ้างต่อไปว่า แม้ว่าในเรื่องสินบนจะเป็นการละเมิดกฎหมาย แต่ก็ยังปล่อยให้เกิดขึ้นโดยเจตนาโดยที่เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ประเทศไทยรับรู้มาเป็นอย่างดี
และยังกล่าวหาอีกว่า มีหลักฐานว่านางรสยา ได้เดินทางไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ประเทศไทย ชื่อนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ , นายสิญภพ รูปเตี้ย และนางสาววิไลลักษณ์ ศรีสุกใส หลังจากการสอบสวนในอินโดนีเซีย วันที่ 7 8 สิงหาคม 2560 ในเที่ยวบินเดียวกัน TG434 เส้นทางจาการ์ตา กรุงเทพฯ วันที่ 11 สิงหาคม 2560 แสดงให้เห็นว่า การให้สินบนในวันที่ 4 สิงหาคม 2560 และวันทำการสอบสวนได้ถูกวางแผนไว้แล้วล่วงหน้าโดยนางรสยาและคณะทำงาน และยังมีนางสาวสุภา ปิยะจิตติและคณะทำงานของเธอด้วย มีการวางแผนจัดเตรียมการสอบสวนทั้งหมดซึ่งประกอบไปด้วยข้อมูลปลอมและเป็นเท็จ และนำพยานหลักฐานเท็จไปใช้ในกระบวนการศาลของไทย
นางแนนซี่ ยังกล่าวหาในประเด็นต่อมา ในเรื่องการสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย ว่ามีพยานหลักฐานว่ารายงานการสอบสวนที่ถูกเก็บรวบรวมมาทั้งหมดประกอบไปด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จและข้อมูลที่ผิดพลาดซึ่งได้ถูกทำขึ้นผ่าน การกระทำที่ละเมิดกฎหมายโดยเจตนา ในอินโดนีเซียโดยนางสาวสุภา ปิยะจิตติ และพวกเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ประเทศไทย และนางรสยา เธียรวรรณ และผู้บริหาร ปตท./PTTGE การกล่าวหาผู้บริสุทธิ์โดยปราศจากหลักฐานที่ถูกต้องเพื่อที่จะช่วยเหลือและปกป้องผู้บริหารปตท./ปตท. PTTGE จากการลงโทษทางคดีอาญาของศาลประเทศไทย
และยังอ้างว่านายอัครกิตติ์ กีรติธนาไชยยศ ในฐานะเจ้าหน้าที่อาวุโส ป.ป.ช. ประเทศไทย ได้รับการพิสูจน์แล้ว่าเป็นผู้ดำเนินการสอบสวนนายเบอร์ฮันนุดดิน ในการสอบสวนวันที่ 7- 8 สิงหาคม 2560 แล้วยังมาพบอีกโดยลำพังเพื่อมาหาและพบกับนายเบอร์ฮันนุดดิน โดยปราศจากการรับรู้รับทราบจากสำนักงาน ป.ป.ช. อินโดนีเซีย(KPK) และได้ขอให้นายเบอร์ฮันนุดดิน ซึ่งเป็นประชาชนอินโดนีเซีย ลงลายมือชื่อในเอกสารที่ถูกเตรียมมาโดยปราศจากการร่วมเดินทางมาด้วยของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. อินโดนีเซีย
และในประเด็นสุดท้ายที่นางแนนซี่ กล่าวหา ก็คือ ในเรื่องสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ โดยอ้างว่า จดหมายที่ทำขึ้นมา PT.KPI เลขที่ 044/KI/2013 วันที่ 14 มกราคม 2556 และจดหมายรายงานจาก ปตท. เลขที่80000001/91 วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 ได้ถูกส่งถึงสำนักงาน ป.ป.ช. ประเทศไทย มีเนื้อหาและข้อความอันเป็นเท็จ
และยังอ้างว่า จดหมายที่ทำขึ้นมา PT.KPI ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าถูกทำขึ้นโดยผู้บริหาร ปตท./ PTTGE ภายหลังนายเบอร์ฮันนุดดิน ได้ลงลายมือชื่อในจดหมายภายใต้การถูกบีบบังคับในข้อแลกเปลี่ยน แต่ท้ายที่สุด จดหมาย PT.KPI ได้ถูกใช้อ้างอิงในรายงานผ่านจดหมาย ปตท. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 และถูกส่งถึงสำนักงาน ป.ป.ช. ประเทศไทย มีชื่อของนางแนนซี่ได้ถูกระบุไว้ในจดหมายฉบับดังกล่าวในฐานะเป็นผู้ถูกกล่าวหา, ผู้ถูกใส่ความ และถูกรายงานโดยเรื่องราวอันเป็นเท็จและข้อมูลเท็จโดยปราศจากหลักฐานที่ถูกต้อง

logoline