"กัน" รับผิดบล็อกเฟซแฟนคลับ เผยเป็นวิธีปกป้องผมจากความทุกข์

หลังจากที่พระเอกเสียงดี กัน นภัทร ได้เปิดตัวคบกับนักแสดงสาวมารี เบิร์นเนอร์ และพาไปเปิดตัวกับแฟนคลับในงานมีตติ้งครบรอบ 9 ปี ก็มีทั้งกลุ่มคนที่ชอบและไม่ชอบที่กันมีความรัก และเมื่อมีกลุ่มแฟนคลับไปแสดงความคิดเห็นที่ไม่ถูกใจไม่สนับสนุนให้กันคบหากับมารี จนทำให้กันไปไล่บล็อกทุกคน ล่าสุดกันก็ยอมรับว่าเขาไล่บล็อกคนกลุ่มนั้นจริงแต่สาเหตุไม่เกี่ยวกับความรัก เป็นเพราะแฟนคลับกลุ่มนั้นใช้คำพูดรุนแรงและทำแบบนี้บ่อยๆทำให้กันต้องปกป้องตัวเอง ส่วนแฟนคลับที่รักและเข้าใจกันก็ยังรักเหมือนเดิม ไม่ได้บล็อกทุกคนที่มีความเห็นไม่ถูกใจเขา แต่ถ้าเกิดการบล็อกไปกระทบแฟนคลับคนอื่นๆก็ต้องขอโทษด้วย กันเองก็เสียใจและน้อยใจเหมือนกันที่เกิดเรื่องแบบนี้

มีข่าวว่าเราไล่บล็อกแฟนคลับ?

"จริงๆ วันนี้ก็อยากจะมาพูดสิ่งที่เราให้แฟนๆ ทุกคนได้เข้าใจ ว่าความจริงเป็นยังไง จากข่าวที่ทุกคนได้เห็นจากทางโซเชียลต่างๆ ว่าเห็นผมไปไล่บล็อกแฟนคลับคนที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องความรัก เรื่องแรกเรื่องของการไล่บล็อก ผมบล็อกจริงๆ บางคนในเฟซบุ๊กของผม ที่ผมได้ตั้งเฟซบุ๊กไว้ขึ้นมา เพื่อเป็นการพูดคุย และโพสต์อีเวนต์ต่างๆ งานต่างๆ ก็จะมีเรื่องราวส่วนตัวบ้างเล็กน้อย 

เหตุผลที่ผมบล็อก เนื่องจากว่า ผมได้มีโอกาสอ่านคอมเมนต์ต่างๆ จากคนในเฟซบุ๊กของผม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข่าวต่างๆ รวมถึงวันนั้นเราได้จัดคอนเสิร์ตมีตแอนด์กรี๊ดครบรอบ 9 ปี ก็หลังจากเสร็จงาน ก็ได้กลับมาบ้านมานั่งอ่านคอมเมนต์ต่างๆ เห็นฟีดแบ็กของคนที่ไปดูวันนั้น"

มันรุนแรงแค่ไหน?

"ผมอ่านทุกคอมเมนต์นะครับ มีทั้งดีและไม่ดี ก็มีหลายอย่างที่เราโอเค คือเข้าใจอยู่แล้วว่า มันต้องมีทั้งคอมเมนต์ที่ไม่เห็นด้วย แล้วก็มีคอมเมนต์ที่เห็นด้วย

และบางคอมเมนต์ที่ผมบล็อกไป ผมต้องขอโทษคนที่ผมบล็อกไป แต่สาเหตุที่เราบล็อกเพราะว่าข้อความบางข้อความรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไรของการใช้คำพูดต่างๆ คือถ้าว่าผมอย่างเดียว มันก็ไม่มีอะไรมาก

แต่มันทำให้กลุ่มแฟนคลับคนอื่นๆ ที่เขามองเรามามันมีความไม่เข้าใจกัน มีความขัดแย้งกันระหว่างแฟนคลับของผม ก็เลยต้องขออนุญาตบล็อกครับ อีกสิ่งหนึ่งที่ตามมาคือบอกว่า ไม่อวยเรื่องความรัก อันนี้เป็นสิ่งที่ผมยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริงๆ

ไม่ใช่เพราะว่าผมมีความรักถึงบล็อก หรือว่าแอนตี้เรื่องความรักของผม เพราะว่าถ้าเกิดผมไล่บล็อกจริงๆ คนที่ไม่เห็นด้วยคงมีมากกว่านี้มากๆ แต่อย่างที่บอกไป ที่เราเลือกบล็อกเพราะสาเหตุคือไม่อยากให้ขัดแย้งกัน หรือความไม่เข้าใจต่อเจตนาของผมที่มีต่อแฟนคลับก็เลยได้มีโอกาสบล็อกไป"

คำพูดมันรุนแรงมากขนาดไหน?

"คือผมไม่อยากลงรายละเอียดอะไรเยอะมากกับเรื่องของคำพูดต่างๆ หรือสิ่งที่เขาได้โพสต์ว่าผมมา ผมว่าทุกวันนี้เราก็มีเฟซบุ๊กเราส่วนตัว จะโพสต์อะไรก็ได้ในโลกโซเชียลหรือจะโพสต์ว่าใครก็ได้ แต่ทำไมเราไม่มีสิทธิ์บล็อกใครก็ได้ เพราะผมเองก็รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ปกป้องเราจากความทุกข์ที่เราไม่อยากเห็นอะไรแบบนี้ ซึ่งผมเข้าใจอยู่แล้วว่าการที่เราเปิดตัวมีแฟน

ผมทำใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องมีทั้งคนที่เห็นด้วยและคนที่ไม่เห็นด้วยแน่นอนอยู่แล้ว แต่ผมโชคดีที่ว่าสิ่งที่เราคิดไว้ มันดีเกินคาดมากๆ มีคนกลุ่มน้อยมากๆ โอเค ผมอาจจะไม่ได้เห็นทั้งหมด แต่เท่าที่ผมสัมผัสผมรับรู้ว่ามีคนที่เยอะมากๆ ข้างนอกมากๆ แม้จะไม่ใช่แฟนคลับเราก็ตาม ที่ชื่นชอบและเชียร์คู่ของเรามากๆ อันนี้ผมรู้สึกว่ามันเป็นกำลังใจดีๆ

ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเกินคาดกว่าสิ่งที่เราคิด พอวันหนึ่งเราเปลี่ยนแปลงชีวิตเราไปในฐานะอีกหนึ่งสเตปจะต้องมีคนที่ไม่เห็นด้วยเยอะมั้ย ผมทำใจตั้งแต่ก่อนเปิดตัวด้วยซ้ำว่าจะมีคนที่จะรับไม่ได้เยอะ มีคนวิพากษ์วิจารณ์เยอะ ก็ทำใจไว้แล้ว"

ตัดสินใจนานไหม กว่าจะเปิดตัว?

"เอ่อ...จริงๆ น้องอยากจะเปิดตัวเร็วกว่านี้ครับ แต่ว่าผมก็พยายามบอกน้องว่าอยากให้ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก่อน แล้วก็ให้ละครมันออนแอร์ไปสักพักหนึ่ง เหมือนกับให้เรามีคนที่คอยซัพพอร์ตเราด้วย ก็ค่อยว่ากัน"

ตัวมารีเอง เขาโดนกระแสอย่างไรบ้าง?

"ไม่ครับ น้องไม่มีกระแสอะไรเลย มีแต่คนชื่นชม แล้วก็ได้เห็นความน่ารักในบางมุมที่ไม่เคยเห็นจากมารีมาก่อน เวลาอยู่ด้วยกันกับผม"

กลายเป็นว่าเราโดนแทน?

"โดนนิดหน่อย คือผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องเล็กมากสำหรับผมนะ ถ้าถามคือเป็นเรื่องเล็กมากๆ แต่ว่าในทางโซเชียล อาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นในทวิตเตอร์ต่างๆ ซึ่งผมไม่ได้ไปอ่านเลย แต่ก็รับรู้มาบ้างว่ามีข่าวตรงนี้เกิดขึ้นมา แต่คนที่ทำให้เกิดเรื่องนี้คือมันจำนวนเล็กน้อยมาก แต่ว่าก็ต้องขอโทษครับ

ถ้าสิ่งที่ผมทำไป การบล็อกแฟนคลับบางคน ทำให้เกิดการเข้าใจผิด หรือว่าทำให้หลายคนติดตามผลงานผมมาต้องรู้สึกผิดหวังในตัวผม แต่ว่าผมรู้สึกว่าตลอดเวลาการทำงานที่ผ่านมา ผมก็ตั้งใจ เรารู้อยู่แล้ว ว่าต้องมีคนชอบ คนไม่ชอบ แต่ละวันที่เกิดขึ้นมา ก็มีคนที่ติดตามเราน้อยลงทุกวัน แต่อีกทางหนึ่ง ก็มีคนติดตามเราเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

เพราะฉะนั้นก็เป็นธรรมดาของคนที่เป็นแฟนคลับ หรือแฟนเพลงของศิลปินต่างๆ ก็อยากให้ทุกคนได้เข้าใจว่าผมเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีความรู้สึกเหมือนกัน มีความน้อยใจเป็น มีความเสียใจเป็นเหมือนกันครับ แต่ว่าทุกวันที่เราทำมา ผมไม่จำเป็นต้องบอกว่าผมรักแฟนคลับแค่ไหน ผมแคร์แฟนคลับแค่ไหน แต่ 9 ปีที่ผมอยู่ในวงการนี้มา ผมว่าแฟนคลับที่เป็นแฟนคลับผมจริงๆ เขาจะรู้ว่าผมรักพวกเขาแค่ไหน"

บางคนก็มองว่าตั้งแต่มีแฟนนิสัยของเราก็เริ่มเปลี่ยนไป?

"แน่นอนครับ มันก็ต้องมีความเปลี่ยนไปอยู่แล้ว เพราะแต่ละวันที่เราโตขึ้น มันก็ต้องเปลี่ยนไปอยู่แล้ว ไม่ใช่เป็นเพราะว่าผมมีแฟนหรอก แต่พอดีวันนี้ผมมีอีกหนึ่งคนที่ผมต้องดูแลเพิ่ม มันก็เลยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอีกขั้น ซึ่งมันก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นนะในมุมมองของผม ผมเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ผมอยากดูแลเขา อยากดูแลคนรอบข้าง

ส่วนความรู้สึกที่ผมอยากจะสร้างผลงานดีๆ เพื่อมอบความสุขให้กับแฟนคลับ มันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ผมยังทำงานทุกงานอย่างเต็มที่ เพื่อที่ทุกคนจะได้มีความสุขกับงานของผมครับ"

กลัวไหมว่าการที่เราบล็อกเขาแบบนี้ จะทำให้มีแฟนคลับรู้สึกแย่กับเรามากขึ้น?

"เอ่อ...ก็อย่างที่บอกครับ ผมต้องขอโทษคนที่ผมบล็อกด้วย และผมเองก็ไม่อยากระบุรายละเอียดว่าเพราะอะไรผมถึงต้องทำแบบนั้น แต่จริงๆ แล้วผมเองก็ผิด ผิดที่ไปบล็อกเขา แต่มันก็เป็นวิธีปกป้องผมจากความทุกข์ เพราะผมเองก็ไม่อยากเข้าไปเห็นสิ่งนี้ เนื่องจากเขาไม่ได้ทำแค่วันนั้น แต่เขาทำมาเป็นระยะเวลานานแล้ว ดังนั้นผมจึงรู้สึกว่าในเมื่อเขาไม่ได้รักเรา ผมก็เลยเลือกที่จะบล็อกเขาไปดีกว่า ก็คิดว่าคงจะโอเค และก็อยากให้ทุกคนเข้าใจว่ามันเป็นยังไง"

เราบล็อกแค่ในเฟซบุ๊กอย่างเดียวใช่ไหม?

"ใช่ครับ แค่ในเฟซบุ๊ก"

ถ้าหากในอนาคตมีคนมาต่อว่าอะไรเราอีก เราก็จะใช้วิธีนี้ใช่ไหม?

"ไม่ครับ คือผมต้องบอกก่อนว่า ก่อนหน้านี้ผมโดนด่ามาเยอะมาก โดนด่าก่อนที่จะมีแฟนคนนี้ซะอีก เพราะผมไม่ได้เพิ่งจะมีแฟนคนนี้ แต่ว่าบางครั้งบางอย่างมันก็มีเรื่องที่ทำให้คนอื่นเขาเข้าใจผมคิด แถมเขายังเป็นอดีตแฟนคลับเราด้วย ผมก็เลยยิ่งรู้สึกเสียใจ และเลือกที่จะบล็อกไปครับ"

เรายืนยันว่ายังรักแฟนคลับเหมือนเดิม?
"ผมไม่จำเป็นต้องพูดแค่เฉพาะวันนี้ครับว่าผมรักแฟนคลับขนาดไหน ระยะเวลาที่ผ่านมามันได้พิสูจน์แล้วว่าผมแคร์พวกเขาแค่ไหน ผมทำงานทุกงานให้ออกมาดีก็เพื่อความสุขของพวกเขา ผมยืนยันครับว่า ผมยังรักและแคร์แฟนคลับมากๆ แม้กระทั่งในวันที่ผมมีแฟน ผมก็ยังพาแฟนผมไปแนะนำตัวกับแฟนคลับ ไปขออนุญาตแฟนคลับ เพราะผมมีความตั้งใจดีจริงๆ ครับ"