นายอัทธ์ พิศาลวานิชผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ศูนย์ฯได้ศึกษานโยบายปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ400 บาทต่อวัน จะมีผลต่อการส่งออกไทยลดลงทันที 1.8% ต่อปี คิดเป็นมูลค่า 4,524ล้านดอลลาร์ หรือ 1.42 แสนล้านบาท เนื่องจากค่าแรงที่สูงขึ้น30%จะทำให้สินค้าไทยไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้แรงงานสูงอย่างอุตสาหกรรมการเกษตร,เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม,อาหาร เป็นต้นดังนั้นรัฐบาลใหม่ควรทยอยปรับค่าจ้างแบบขั้นบันไดหรือ 5%ต่อครั้งเพื่อให้ผู้ส่งออกได้ปรับตัวได้ และเพิ่มทักษะแรงงานให้สอดคล้องกับรายได้เป็นต้น
ทั้งนี้ ค่าจ้างขั้นต่ำของไทยนั้นปัจจุบันอยู่ในระดับ308-330 บาทต่อวัน หากปรับขึ้นเป็นวันละ 400บาทก็จะทำให้ค่าจ้างในไทยยิ่งสูงกว่าคู่แข่งทางการค้ามากขึ้น เช่น จีนที่มีจ้างเฉลี่ยที่ 215-330 บาทต่อวัน, อินโดนีเซีย 117-294 บาทต่อวัน,มาเลเซีย 278 บาทต่อวัน, ฟิลิปปินส์ 196-246 บาทต่อวัน, เวียดนาม167-190 บาทต่อวัน, กัมพูชา 180 บาทต่อวัน, สปป.ลาว136 บาทต่อวัน, เมียนมา 101 บาทต่อวัน เป็นต้น
นายอัทธ์ กล่าวว่า ศูนย์ฯยังได้ทำการวิเคราะห์ทิศทางการส่งออกไทยปี 2562 คาดว่าการส่งออกทั้งปีจะมีมูลค่า 2.51 แสนล้านดอลลาร์หรือติดลบ 0.64% ถือเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 4 ปี แต่เมื่อเทียบกับกับการส่งออกของประเทศต่างๆทั่วโลกก็มีแนวโน้มติดลบเช่นเดียวกับไทยเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐที่ยืดเยื้อส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกและภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว