เตรียมรับมือ.....หลังน้ำ 3 เขื่อนหลักลดลงต่อเนื่อง

เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติหรือ สทนช.เผยได้มีการติดตามประเมินสถานการณ์น้ำในแหล่งกัดเก็บน้ำปัจจุบันพบว่ามีปริมาณน้ำรวม 47% แบ่งเป็นภาคเหนือ 34% ภาคกลาง 20% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 33% ภาคตะวันตก 68% ภาคตะวันออก 36% และภาคใต้ 58%ตอนนี้มีอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้อยกว่า 30% แบ่งเป็น อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 19 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 151 แห่ง สาเหตุของน้ำต้นทุนที่มีปริมาณน้อยแม้จะอยู่ในช่วงฤดูฝน เกิดจาก 3 ปัจจัย คือ 1.ปริมาณฝนตกช่วงฤดูฝนปี 2561 น้อยกว่าปกติ 2. มีการส่งน้ำให้กับพื้นที่การเกษตรที่เพาะปลูกเกินแผนในฤดูแล้งปี 2561-2562 โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่มีการเพาะปลูกเกินแผน 1.2 ล้านไร่ 3.มีปริมาณฝนตกจริงน้อยกว่าที่กรมอุตุฯ คาดการณ์ไว้ 30-40% ซึ่ง สทนช.ได้ประเมินพื้นที่ฝนตกน้อยและอาจมีความเสี่ยงขาดแคลนน้ำโดนเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน 83 อำเภอ 20 จังหวัด แบ่งเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 35 อำเภอ 10 จังหวัด ภาคใต้ 27 อำเภอ 8 จังหวัด ภาคเหนือ 18 อำเภอ 6 จังหวัด และ ภาคตะวันตก 3 อำเภอ 1 จังหวัด
ขณะที่ 3 เขื่อนหลัก คือเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิตติ์ และ เขื่อนอุบลรัตน์ยังมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำ น้ำยังไม่มีเพียงพอต่อการเพาะปลูก อาจจะต้องให้เกษตรงดการปลูกข้าวในฤดูแล้ง