ชาวบ้านแห่เข้าแจ้งความเอาผิด "บัตรพลังงาน"

วันที่ 15 มิ.ย.62 ที่สถานีตำรวจภูธรอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ชาวบ้านบ้านศาลาดิน ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และหมู่บ้านใกล้เคียง จำนวน 9 คน เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.อุบลรัตน์ หลังตกเป็นผู้เสียหายถูกหลอกให้ซื้อบัตรพลังงานที่ตัวแทนจำหน่ายอ้างว่าสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ ซึ่งพรักงงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำอย่างละเอียดและกันตัวไว้เป็นพยาน โดยการสอบปากคำครั้งนี้ มี พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ เป็กทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ขอนแก่น เดินทางร่วมสอบปากคำด้วยตนเอง
พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ชาวบ้านที่เดินทางเข้ามาให้ปากคำในวันนี้ ใน 9 คน แยกเป็นผู้ที่เข้าอบรมกับตัวแทนจำหน่ายบัตร 5 คน ส่วนอีก 4 คน เป็นชาวบ้านที่ซื้อบัตรจากตัวแทนจำหน่ายมาใช้ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แยกสอบปากคำแต่ละคนอย่างละเอียด โดยประเด็นสอบสวนมุ่งไปที่กระบวนการและขั้นตอนในการได้มาซึ่งบัตรพลังงาน รวมทั้งวิธีการใช้บัตรที่ตัวแทนจำหน่ายอบรมให้กับผู้ที่เข้าร่วมอบรม ซึ่งจัดขึ้นที่หน่วยงานแห่งหนึ่งในอำเภอเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 6 - 8 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 9 คนที่เข้ามาให้ปากคำจะถูกกันตัวไว้เป็นพยานในคดี ขณะเดียวกันยังคงส่งชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบว่าในอำเภออุบลรัตน์ และ อำเภอเขาสวนกวาง รวมทั้งอำเภอใกล้เคียงว่า มีชาวบ้านในพื้นที่ซื้อบัตรนี้มาใช้หรือไม่ หรือมีใครเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือไม่ รวมทั้งเคยเข้าร่วมการอบรม หากพบว่ามีการซื้อมาใช้ก็จะเรียกเข้ามาให้ปากคำ ขณะเดียวกันในวันจันทร์ ที่ 17 มิ.ย.62 นี้ นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับบริษัทที่เป็นผู้จำหน่ายบัตรพลังงาน หลังจากที่ได้ตรวจสอบในเบื้องต้นแล้วพบว่า เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภคและอวดอ้างโฆษณาเกินความเป็นจริง
ด้านนายทวี เพียอินทร์ หนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมอบรมกับตัวแทนจำหน่ายและซื้อบัตรพลังงานมาใช้ กล่าวว่า ในวันที่เข้าร่วมการอบรมระหว่าง วันที่ 6 - 8. มิ.ย. 62 ในพื้นที่อำเภอเขาสวนกวาง ยืนยันว่าในการอบรมตัวแทนบริษัทได้มีการสาธิตวิธีการใช้บัตร และบอกว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคต่างๆ ได้ ซึ่งไม่ได้บอกกับผู้เข้าอบรมว่า บัตรพลังงานเป็นของแถมตามที่ประธานบริษัทฯ บัตรพลังงานให้สัมภาษณ์ผ่านทางรายการโทรทัศน์ อีกทั้งไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่มุ่งอธิบายการใช้งานและสรรพคุณของบัตรพลังงาน ซึ่งหลังจากนี้ตนก็เลิกใช้บัตรนี้ เพราะทราบว่ามีสารเคมีที่เป็นอันตราย
ขณะที่นางไพ เดชแพง อายุ 66 ปี ชาวบ้านศาลาดิน ต.ศรีสุขสำราญ ผู้ที่ใช้บัตรพลังงานรักษาอาการระบบลำไส้ บอกว่า ตนใช้บัตรนี้มาหลายเดือนแล้ว โดยได้ใช้บัตรแกว่งในน้ำเปล่าแล้วดื่มเป็นประจำ ซึ่งหลังจากการดื่มอาการทางระบบลำไส้ก็ทุเลาลง โดยไม่ต้องทานยาแผนปัจจุบันใดๆ แต่หลังจากที่ทางราชการออกมาแจ้งเตือนว่าบัตรนี้เข้าข่ายหลอกลวง และไม่สามารถรักษาโรคได้ ตนก็จะเลิกใช้ไปก่อนเพราะกลัวว่าอาจได้รับสารเคมีที่อยู่ในบัตรพลังงาน