วิษณุ บอก นายกฯ เป็น หัวหน้าพรรคการเมืองได้ ไม่ขัดกฎหมาย

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกระเเสข่าว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมือง ว่า ไม่ทราบ แต่ยืนยันไม่ขัดในแง่ทางกฎหมายและในทางจริยธรรม เพราะหากเปรียบเทียบกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่หากได้รับการโหวตเลือกดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองเช่นกัน และไม่ทราบว่าการเป็นนักการเมืองหรือไม่เป็น อย่างไหนจะเหมาะสมกว่ากัน
ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ภายหลังเปิดเผยรายชื่อ คณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว นั้น นายวิษณุ ยืนยันว่า ไม่ได้ออกมาปกป้องใคร เพียงแต่ตอบคำถาม ของสื่อมวลชนที่ถามมา และในชั้นกระบวนการสรรหา ทางนายกฯ ก็ไม่สามารถตอบอะไรได้ เป็นเพียงผู้ลงรายชื่อในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเท่านั้น ซึ่งคณะกรรมการก็ทำเสนอรายชื่อ บันทึกการประชุม ให้นายกฯ ทราบตามกำหนด และเชื่อว่านายกฯ ได้ทำการบ้านมาก่อนการประชุมเช่นกัน ทั้งนี้สิ่งที่ตนตอบไปนั้นถือว่าชัดเจนมากที่สุดแล้ว และการให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้โดยอธิบายว่า ไม่ได้หมายถึงประชาชนไม่เกี่ยวข้อง กับ ส.ว เพียงแต่ในกระบวนสรรหา เป็นการคัดเลือกจาก คสช. เท่านั้น ไม่ได้มีการเปิดรับสมัคร ซึ่งเป็นกระบวนการภายในตามรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าไม่ได้มีความลึกลับ เพียงแต่ว่าที่ไม่เปิดรายชื่อก่อนหน้านี้เป็นมติที่ประชุมคณะกรรมการสรรหา ไม่ต้องการให้เกิดการ วิ่งเต้น เพื่อให้ได้ดำรงตำแหน่ง ส.ว
ส่วนกระแสข่าว นายดิสทัต โหตระกิตย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และอดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการนายกฯ ในรัฐบาลชุดใหม่ นั้น ขณะนี้ตนก็ทราบจากสื่อมวลชน และไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ แต่ส่วนตัวมองว่าไม่น่ามีปัญหา และนายดิสทัต ก็เป็นลูกศิษย์ รุ่นแรกของตน มีนิสัยละเอียดรอบคอบ และบิดาก็เป็นบุคคลเป็นที่เคารพนับถือและเป็นอาจารย์ของตนด้วย ส่วนหลายฝ่ายมองว่า เลขานายกฯ เปรียบเหมือน "นายกน้อย" ก็ มองว่าขึ้นอยู่กับสถานะภาพว่าจะวางไว้อย่างไร และนายกฯ ก็มีทีมงานอยู่เป็นจำนวนมาก
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการเสนอรายชื่อคณะรัฐมนตรี ว่า ไม่ทราบว่าขณะนี้มีการเสนอรายชื่อว่าที่ ครม. ให้ตรวจสอบแล้วหรือไม่ เนื่องจากต้องส่งให้ เลขา ครม. เป็นผู้ตรวจสอบ แต่โดยมารยาทจะไม่นำเรื่องดังกล่าวมาเปิดเผย ซึ่งปกติแม้รายชื่อ ครม. มี 35 คน แต่จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติถึง 70 คน เพื่อไม่ให้เกิดความรั่วไหลในข้อมูล
ส่วนกรณี ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปสถานศึกษา เพื่อขอให้ลบภาพพานไหว้ครูล้อการเมืองของโรงเรียนแห่งหนึ่งนั้น นายวิษณุ บอกว่า ได้ทราบจากสื่อมวลชนและทราบว่าเป็นเพียงการขอให้ลบภาพเท่านั้น จึงไม่ขอออกความคิดเห็น