ปัญหาข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านรอบเหมืองทองคำ บริษัทอัครารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่ จ.พิจิตร ยืดเยื้อคาราคาซังมานานหลายปี ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. จะตัดสินใจใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งปิดเหมือง และให้หน่วยงานภาครัฐเข้าไปเยียวยาความเดือดร้อนของชาวบ้านอย่างเร่งด่วนช่วงกลางปี 2557
ทีมข่าวเนชั่นทีวี มีโอกาสได้ไปสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านรอบเหมืองทอง เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนว่า เหตุใดพวกเขาจึงอยู่ร่วมกับเหมืองทองคำไม่ได้"สื่อกัญญา ธีระชาติดำรง" แกนนำเครือข่ายต่อต้านเหมืองทองชาตรี บอกกับทีมข่าวเนชั่นทีวีว่า เธอถึงกับตกใจ เมื่อผลตรวจเลือดพบสารไซยาไนด์ สารหนู และแมงกานีส เกินค่ามาตรฐานขณะที่ตัวแทนเหมืองทองคำได้ชี้แจงกับเรา โดยอ้างอิงผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำจากหน่วยงานราชการ ยืนยันว่า ไม่มีสารปนเปื้อน จนก่อให้เกิดอันตราย อีกทั้งบริษัทยังยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านหลังบริษัทฯ เปิดดำเนินกิจการเหมืองทองชาตรีเฟสแรกเมื่อปี 2544 เป็นเวลากว่า 10 ปีที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบ และคัดค้านมาตลอด แต่ไม่เคยชนะ เพราะระบบราชการเอื้อประโยชน์กับนายทุน จึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนกับคสช. เป็นที่พึ่งสุดท้ายหลัง คสช. รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน
ในที่สุดเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2559 ที่ประชุม ครม.ได้มีคำสั่งยุติการดำเนินกิจการทั้งหมดของเหมืองแร่ทองคำ และใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาผลกระทบให้กับชาวบ้าน นำมาสู่การยื่นฟ้องรัฐบาลไทยในปี 2560 เพื่อให้ยกเลิกคำสั่งระงับกิจการ และเรียกร้องค่าชดเชยเป็นเงินกว่า 40,000 ล้านบาท
ซึ่งขณะนี้อยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ และจะหารือนัดแรก ในวันที่ 19 พ.ย.นี้