สื่อไทยถามแรง! กรณีสิทธิ์การสร้างเนื้อหาเกี่ยวกับ "ถ้ำหลวง"

อย่างที่ทราบกันดีก่อนหน้านี้ถึงเรื่องราวการเตรียมจัดสร้างเนื้อหาจากกรณีถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงรายนั้นว่า "เน็ตฟลิกซ์และเอสเคโกลบอลเอนเตอร์เทนเมนท์" ได้รับสิทธิจากบริษัท13ถ้ำหลวงจำกัดให้เป็นผู้บอกเล่าภารกิจการกู้ภัยเพื่อช่วยเหลือเยาวชนทั้ง12คนและโค้ชออกจากถ้ำหลวงในจังหวัดเชียงรายหลังจากทั้งหมดต้องติดอยู่ในถ้ำที่ถูกน้ำท่วมนานสองสัปดาห์ในช่วงกลางปี2561

เพื่อแสดงจุดยืนและความคืบหน้านั้นทางผู้สร้างได้จัดแถลงข่าวขึ้น โดยมี 13หมูป่า น้อง ๆ ทั้ง 12 คน รวมถึงโค้ชเอก พร้อมผู้เกี่ยวข้องอย่างบุ๋ม -ปนัดดา วงศ์ผู้ดี, กระทรวงวัฒนธรรม , และทัพสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศเข้าเก็บภาพครั้งนี้

ด้านคุณเอริก้า นอร์ธ จากเน็ตฟลิกซ์ กล่าวว่าภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในงานครั้งนี้โดยเฉพาะประเทศไทยและขอบคุณที่ถูกรับเลือกในโอกาสนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งตลาดในประเทศไทยถือว่ากำลังเติบโตขึ้น

ส่วนคุณไมค์เคิล โฮเกน จากเอสเค โกลบอลเอนเตอร์เทนเมนท์กล่าวถึงการจัดสร้างว่าภูมิใจที่ได้รับโอกาส และจะนำคอนเทนส์นี้สู่สายตาชาวโลก อย่างตรงไป ตรงมาและที่สำคัญคือต้องชื่นชมและขอบคุณผู้กำกับคือ คุณจอน เอ็ม ชู และ คุณบาส นัฐวุฒิ

ทั้งนี้สำหรับ บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ และนายจอน เอ็ม ชูจะเป็นผู้กำกับสำหรับโปรเจกนี้ ส่วนนายจอห์น พิน็อตติ และนายจอน เอ็ม ชูจะเป็นผู้อำนวยการสร้างซึ่งร่วมกับพาร์ทเนอร์ด้านการผลิต แลนซ์ จอห์นสันภายใต้บริษัท ElectricSomewhereรวมทั้งบริษัทStarlight CultureEntertainmentซึ่งจะทำหน้าที่ผลิตเช่นกัน

สำหรับผู้ช่วยโค้ช นายเอกพล จันทะวงษ์ บริษัท 13 ถ้ำหลวง จำกัดเป็นตัวแทน 13ถ้ำหลวงกล่าว เหตุผลที่เลือกเน็ตฟลิกซ์เนื่องจากผู้สร้างจะสามารถถ่ายทอดเนื้อหาเพื่อผลประโยชน์แก่สาธารณะได้ในวงกว้าง

นอกจากนี้ทีมผู้สร้างและโค้ชเอกยังได้ตอบคำถามจากสื่อหลายสำนักในประเด็นต่างๆ ด้วย อาทิ กรณีเกี่ยวกับการถือครองสิทธิ์ที่เคยมีข่าวว่า จะได้สิทธิ์ของทั้ง 13 หมูป่าตลอดชีวิตนั้นแท้จริงแล้วเป็นเพียสิทธิ์ระยะสั้นในช่วงระยะเวลาที่ตกลงกันเท่านั้นไม่ใช่ตลอดชีวิตด้านค่าตอบแทนที่จะมีการหักประมาณ 15-20% นั้นเป็นเพียงการพูดคุยกันยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ทั้งนี้ส่วนดังกล่าวจะนำไปตอบแทนสังคมที่ประสบภัย โดยจำนวนนั้นขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละครอบครัวซึ่งไม่อยากให้โฟกัสเรื่องการหักเงิน ส่วนเรื่องการจัดตั้งบริษัทถ้ำหลวงขึ้นมา จนถูกมองว่ามีใครอยู่เบื้องหลังหวังจะกอบโกยผลประโยชน์หรือเปล่านั้นโค้ชเอกก็ตอบอย่างหนักแน่นว่าไม่มีใครอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น

และประเด็นที่สร้างความฮือฮาให้กับคนทั่วทั่งงานแถลงข่าวคงเป็นคำถามจากสื่อไทยที่ถามไปยังโค้ชเอก และน้อง ๆ หมูป่าว่า "มองว่าเรื่องดังกล่าวนั้นเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล หรือส่วนรวมที่ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะชน"

Q : ขอถามโค้ชเอก ในฐานะที่เป็นตัวแทนบริษัท และผู้ประสบภัยนะคะว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนที่ตัวเองติดอยู่ในถ้ำคิดว่าเป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคลหรือว่าเป็นเรื่องของส่วนรวม เป็นสิทธิ์สาธารณะ แล้วถ้าคิดว่าเป็นสิทธิ์อะไรควรจะมีการเล่าในหลากหลายรูปแบบที่ไม่ใช่เฉาะเรื่องของธุรกิจหรือเปล่า

A : .....ในเรื่องนี้นะครับก็ ให้ทางผู้ใหญ่ทางคณะกรรมการเค้าเป็นคนพิจารณาและตัดสินใจดีกว่าครับผม

Q : โค้ชเอกก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการของ บ. ไม่ใช่เหรอคะ

A : นั่นก็ใช่อยู่ครับผม

Q : ถ้าอย่างนั้นขอถามในฐานะที่ตัวเองเป็นผู้ประสบภัยได้มั้ยคะว่า ทั่วโลกที่ปฏิบัติการช่วยเหลือเรา 18 วันเนี่ยค่ะ คิดว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้ยภายในถ้ำเป็นเรื่องราวของ 13 คน หรือว่าเป็นเรื่องราวของส่วนรวมที่ควรจะเล่าในหลากหลายรูปแบบไม่เฉพาะธุรกิจหรือเปล่าคะ ขอความคิดเห็นส่วนตัวก็ได้ค่ะ

A : คิดว่าเป็นการผสมผสานกันมากกว่านะครับ

Q : มียาวกว่านี้มั้ยคะ หรือว่าน้อง ๆ หมูป่าที่อยู่ข้างล่างพอจะอธิบายแทนโค้ชเอกได้มั้ยคะ เป็นความเห็นที่คิดว่าสำคัญนะคะ เพราะว่าเรื่องนี้ทั่วโลกระดมมาช่วยเรา คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนรวมหรือเรื่องส่วนตัว งั้นถามท่านรองก็ได้ค่ะ รองโฆษกก็ได้ค่ะ

A : เรื่องก็เป็นเรื่องที่ผสมผสานกันไปอย่างที่โค้ชเอกว่า บางส่วนก็เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งเราก็ต้องเคารพสิทธิส่วนบุคคล เคารพความเป็นส่วนตัวของเค้า บางเรื่องที่เป็นเรื่องที่มีประโยชน์ต่อสาธารณะชน ยกตัวอย่างเช่นความพยายาม การนำความร่วมมือจากต่างประเทศ ในประเทศ ให้มาบรรจบกันแล้วก็สามารถที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงนี้ก็เป็นเรื่แงที่สามารถจะป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชนก็เป็นเรื่องส่วนรวม แต่ว่าเราก็ต้องไม่พยายามเข้าไปก้าวก่ายในเรื่องอะไรที่เป็นส่วนตัวเค้า เช่น บางเรื่องที่เป็นความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ เป็นเรื่องส่วนตัว แต่ถ้าเป็นเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับคนอื่นผมก็เห็นว่าเป็นส่วนรวมซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับไม่ใช่แต่ประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์กับโลกเพราะว่ามันมีโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกดังนั้นวิธีการต่างๆ วิธีช่วยเหลือต่างๆ เป็นความร่วมมือ การประสานงานก็อาจจะเป็นสิ่งที่สามารถจะนำไปเป็นประโยชน์ได้มนแง่มุมหนึ่ง แต่ก็ยืนยันว่าอะไรที่เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลเราก็ไม่ควรจะไปก้าวก่าย เพราะที่ผ่านมาทางคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ฯ ก็ไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย ถึงแม้ว่าจะได้ความวางใจจากเด็ก ๆ ทั้ง 13 คนและพ่อแม่ ก็ไม่เคยเข้าไปล่วง เราเคารพ เพราะว่าเราเคารพในสิทธิส่วนบุคคลของทั้ง 13 คนและครอบครังซึ่งไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ เค้ามีสิทธิ์จะพูดหรือไม่พูดโดยเราเราไม่มีสิทธิ์จะไปทวงถาม เพราะสิทธิส่วนบุคคลเป็นเรื่อฃสำคัญ

สำหรับโปรเจกเรื่องราว 13 หมูป่านั้นยังมีอีกหลายส่วนที่ต้องดำเนินการต่อแม้ว่าจะได้ผู้กำกับอย่างคุณจอน เอ็ม ชู และ คุณบาส นัฐวุฒิ มาแล้วก็ตามฉะนั้นก็ยังไม่เห็นผลงานในปีนี้แน่นอนส่วนใครอยากได้ข้อมูลและความคืบหน้าก็สามารถสอบถามได้ทั้ง บ.ถ้ำหลวง, เน็ตฟลิกซ์ และ เอส เค โกลบอลทั้งนี้ในเดือนพฤษภาคมจะมาแถลงข่าวอัพเดทกันอีกครั้ง