พล.ต.อธิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับการรณรงค์ แบ่งออกเป็น 3 ด้าน 1.สงกรานต์แบบไทย ส่งเสริมให้จังหวัดต่างๆ จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม ร่วมสืบสานประเพณี เน้นวิถีวัฒนธรรม ชูเอกลักษณ์ท้องถิ่นโดยขอความร่วมมือจากประชาชน เช่น การแต่งกายด้วยชุดสุภาพ หรือผ้าไทย หรือชุดไทยย้อนยุค ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ และประชาชนให้จัดกิจกรรมโดยคำนึงถึงวัฒนธรรมอันดีงาม และจัดให้มีการเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม โดยมีสายด่วนวัฒนธรรม 1765
2.การรณรงค์จัดกิจกรรมใช้น้ำคุ้มค่า ขอความร่วมมือใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ งดใช้รถบรรทุกตระเวนเล่นน้ำในพื้นที่ต่างๆ พร้อมกำหนดระยะเวลาการเล่นน้ำสงกรานต์ รวมถึงการห้ามใช้แป้งและสีต่างๆ ขอให้ใช้อุปกรณ์ที่ปลอดภัย ใช้น้ำสะอาดเพื่อสุขอนามัยในการเล่นสงกรานต์ด้วย
พล.ต.อธิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า 3.การรณรงค์จัดกิจกรรมทุกชีวาปลอดภัย รณรงค์กำหนดเวลาเปิดปิดกิจกรรม สถานบันเทิง งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามเวลาที่กฎหมาย กำหนด ควบคุมและรณรงค์ผู้ใช้รถในมาตรการเมาไม่ขับ โดยต้องปลอดแอลกอฮอล์ และมีน้ำใจแก่กัน เน้นการลดปัจจัยเสี่ยงของการใช้ถนน ยานพาหนะ และกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยในกิจกรรมส่งคนกลับบ้าน โดยตรวจความพร้อมของผู้ขับรถ ควบคุมและตรวจจับความเร็ว โดยต้องมีศูนย์รับแจ้งเหตุร้องเรียนการใช้รถใช้ถนน สถานที่จัดงานทุกแห่งต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัย การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องต้องกระทำอย่างจริงจัง มีศูนย์แจ้งเตือนภัยสภาพอากาศตลอดช่วงเทศกาลด้วย.