เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2562 จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ที่ปกคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่หนาแน่นต่อเนื่องหลายวัน จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ สถานีในพื้นที่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง เชียงใหม่ พบปริมาณฝุ่นละอองค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ประจำวันที่ 13 มีนาคม 2562 ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 141 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีค่าเกินมาตรฐานที่กรมควบคุมมลพิษกำหนดไว้ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2562 โดยมีค่าอยู่ที่ 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และในวันที่ 12 มีนาคม มีค่า PM2.5 อยู่ที่ 105 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ด้านเว็บไซต์ https://www.airvisual.com/world-air-quality-ranking รายงานวันที่ 13 มีนาคม 2562 ระบุว่าคุณภาพอากาศของเชียงใหม่อยู่ในเกณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพเป็นอันดับแรกของโลก ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ AQI อยู่ที่ 246 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่ พล.ต.บัญชา ดุริยะพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการณ์ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์กลุ่ม"ควบคุมสถานการณ์หมอกควัน ทภ.3" เมื่อเวลาประมาณ 07.34 น. ของวันที่ 13 มีนาคม 2562 โดยระบุว่า ข้อความ เรียน ผู้ว่าราชการ จังหวัดเชียงใหม่ ผู้บัญชาการ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 "ผมได้รับบัญชาสั่งการจากรัฐบาล ให้เข้ามาแก้ไขวิกฤตหมอกควัน ฝุ่นละออง ที่มีผลกระทบ กับ ชีวิตพี่น้องประชาชน ในพื้นที่จังหวัดที่มีค่าสูงมาก....Action Plan ที่จะปรับเปลี่ยนในวันนี้จะมุ่งไปที่จังหวัดเชียงใหม่ ให้ทุกท่าน ประสานการปฏิบัติ แบบบูรณาการกันดังนี้
1. การสร้างมวลอากาศดีในเขตพื้นที่ ชุมชนหนาแน่น ให้ระดมเครื่องพ่นละอองน้ำ ติดตั้งภายในวันนี้ ณพื้นที่ 2 จุด คือ 1.1 รอบคูเมืองทั้ง 4 ทิศ ของอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ 1.2.บริเวณ ห้วยตึงเฒ่า ซึ่งเคยใช้เป็นที่สร้างม่านน้ำฟอกอากาศอยู่แล้ว การปฏิบัติ:โดยให้ประสานใช้ยุทโธปกรณ์ของหน่วยในทุกภาคส่วน มาดำเนินการ โดยให้ปฏิบัติในห้วงเวลาตั้งแต่ 10.00 นของทุกวันจนถึง 14.00 น.ของทุกวันจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของตึกสูงร่วมพ่นละอองน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับอากาศ และทำการประชาสัมพันธ์รณรงค์งดการเผาอย่างเด็ดขาด และ ใช้มาตรการทางกฎหมาย หาตัวบุคคลที่ไม่ให้ความร่วมมือในการลักลอบเผาป่า และเผาพื้นที่เกษตรกรรม
2. ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ ตั้ง War Room ร่วมกับ กองพลทหารราบที่ 7 และหน่วยงาน อื่นๆที่เกี่ยวข้อง วางแผนในการปฏิบัติการดับไฟในเขตพื้นที่เพื่อลดค่าละอองฝุ่นพิษ โดยให้มีที่ตั้งอยู่ ณ สโมสรค่ายกาวิละ ให้เปิดทำการตั้งแต่ 9:00 น. วันนี้ และรายงานผลการปฏิบัติตรงในการปฏิบัติงานวงรอบ 24 ชั่วโมงทุกวันให้กับ กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จังหวัดพิษณุโลก ทุกวัน"
ล่าสุด เมื่อเวลา 08.26 น.วันนี้ (13 มีนาคม) มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงกองทัพภาคที่ 3 จะเคลื่อนย้ายกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือกองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ไปเข้าที่ตั้ง ณ สโมสรค่ายกาวิละ ขอให้ทางมณฑลทหารบกที่ 33 เตรียมการด้วยและให้ประสานหน่วยทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องของทางจังหวัดเชียงใหม่และ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ ,กองพลทหารราบที่ 7 ให้จัดเจ้าหน้าที่ประจำ บก.ฯเพื่อปรับสถานการณ์ และควบคุมสถานการณ์...
.
.
.