สาว ม.6 ร้อง "บิ๊กโจ๊ก" วอนช่วยให้ได้ที่นาของแม่คืน

นางสาวจุฑารัตน์ มะลิจันทร์ กล่าวว่า เหตุทีแม่ติดร่างแหด้วย จนถูกฟ้องร้องข้อหาบุกรุก เนื่องจากวันเกิดเหตุ ก่อนตำรวจเข้าไปจับกุมนั้น เป็นจังหวะที่แม่ถูกบันทึกภาพไว้ได้ขณะเข้าไปพุดคุยกับ นายพงษ์ศักดิ์ และนางศิริพร 2 สามี-ภรรยา ที่ถูกกล่าวหาว่าไปบุกรุกที่ดินที่มีการนำไปจำนองไว้ กับนายทุนเงินกู้รายหนึ่งใน อ.พนมไพร ร้อยเอ็ด ไว้เมื่อปี 2560 ยังไม่มีการไถ่คืน จนถูกแจ้งความจับ ซึ่งภาพถ่ายใบนั้นติดแม่ของเธอด้วย จึง ตั้งข้อหาว่า แม่ของตนเป็นบุคคลที่ 3 ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกรุกที่ดิน ซึ่งศาลตัดสินจำคุกทั้ง 3 คน คนละ 4 เดือน

ซึ่งแม่ของเธอ ได้ทำเรื่องอุทรณ์ สู้คดี เพื่อของความเป็นธรรม และยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และต่อสู้คดีจนถึงศาลฎีกา และในที่สุดศาลฎีกาได้พิพากษายืน ตามศาลชั้นต้น ว่า แม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และตัดสินเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2562 จำคุกแม่ 4 เดือน และส่งเข้าเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด

ตนเองสิ้นหวัง ขาดที่พึ่ง วันเกิดเหตุ จึงได้แต่ภาวนาเดินสายทำบุญ และวิงวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้แม่ได้รับการประกันตัว เพื่อร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่จำนนจากภาพถ่าย ที่ติดแม่ตนในภาพ โดยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง

นอกจากนี้เมื่อแม่ต้องติดคุก ส่งผลให้ครอบครัวเกิดความลำบาก เพราะแม่ต้องหาเลี้ยงลูกถึง 3 คน ซึ่งเมื่อแม่ติดคุก ก็ทำให้ขาดที่พึ่ง ทุกอย่าง ซึ่งหากหาทางออกไม่ได้ เธอคงต้องยุติการเรียน หรือพักไว้ชั่วคราว จนกว่าจะแม่จะพ้นโทษ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะหาทางออกอย่างไร

ส่วนที่ต้องร้องขอให้ พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ช่วยเหลือเนื่องจาก แม่นำที่ดิน 11 ไร่ ไปจำนองไว้กับนายทุนอีกรายหนึ่ง ที่ อ.สุวรรณภูมิ เพื่อส่งลูกเรียน แล้วถูกนายทุนฮุบที่ดินไป แบบไม่เป็นธรรม ทั้ง ๆที่พยายามหาเงินส่งดอกเบี้ย และผ่อนชำระเรื่องมา แต่กลับถูกยึดที่ดินไปอย่างไม่เป็นธรรม จึงร้องขอให้พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ ช่วยเหลือขอความเป็นธรรมดังกล่าว