ร้อง จนท.ปราบมาเฟียคุมวิน แฉฟันเหนาะๆ กว่า 3.6 ล้านต่อปี

หลังจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งปราบปราม วินรถจักรยานยนต์ ที่คิดค่าโดยสารแพงกว่าปกติ และมีค่าซื้อเสื้อวินตัวละ 300,000-400,000 บาท รวมถึงบางคันเป็นรถที่ยังไม่ถูกต้อง ทั่วกรุงเทพมหานคร วันนี้ทีมข่าวเนชั่นทีวี ลงพื้นที่สำรวจย่านถนนพระราม 4 อีกครั้ง และได้ไปพูดคุยกับคนขับวินรถจักรยานยนต์ ย่านบิ๊กซีพระราม 4 พบว่า ทุกวันนี้ยังต้องจ่ายเงินให้กับเจ้าของวิน

โดยผู้ขับขี่วินรถจักรยานยนต์ รายนี้เล่าว่า ตนเองทำอาชีพขับวินมา 3 ปี แล้ว ครั้งแรกที่เข้ามาต้องเสียค่าแรกเข้า 20,000 บาท โดยเจ้าของวินจะให้ขับฟรี 1 เดือน แต่ต้องไปดำเนินการขอป้ายเหลือง และลงทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกด้วยตนเองจากนั้นเดือนถัดไป ต้องจ่ายเงินรายวัน วันละ 40 บาท ให้กับเจ้าของวิน เฉลี่ยต่อเดือน 1,200 บาท ไม่ว่าจะม่วิ่งรับส่งผู้โดยหรือไม่ก็ตาม หากไม่จ่าย ก็จะไม่มีสิทธิ์มาขับอีก ส่วนรถที่ยังไม่ได้ป้ายเหลือจะต้องจ่ายเพิ่มอีก 100 บาท ต่อเดือน

ซึ่งวินที่ตนเองขับอยู่นี้ มีอยู่ 150 คัน รวมต่อคนปีละ 24,000 บาท จ่ายเงินให้กับเจ้าของวินเดียวกัน หรือกว่า 3.6 ล้านบาท โดยเจ้าของวินไม่ได้ดูแลสวัดิภาพ หรือเรื่องอื่นใดให้เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นช่วยเหลือเวลาบาดเจ็บ หรือไม่สบายนอกจากนี้ทุกวันพุธยังเรียกเก็บเพิ่มเป็นวันละ 60 บาท ซึ่งเจ้าของวินอ้างว่าเป็นค่าน้ำดื่ม

คนขับวินคนเดิม ยังเล่าอีกว่า ทั้งนี้หากใครต้องการเปลี่ยนรถคันใหม่ ต้องเสียอีกคันละ 3,500 บาท ทั้งที่ตามระเบียบของกรมการขนส่งทางบก สามารถนำเอกสารจากสำนักงานเขตยื่นที่กรมการขนส่งทางบก เพื่อแจ้งเปลี่ยนรถและออกป้ายเหลืองได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ตนเองเคยเปลี่ยนรถ เมื่อไปขอเอกสารกับเขตพื้นที่ เจ้าหน้าที่กลับบอกว่าจะติดต่อกลับ และวันต่อมา หัวหน้าวิน ก็ได้นำเอกสารมาให้ พร้อมกับเรียกเก็บเงิน 3,500บาท และให้ตัวเขานำเอกสารไปดำเนินการที่กรมขนส่งทางบกด้วยตัวเอง จึงอยากตั้งข้อสังเกตุว่า การดำเนินการของเขตกับเจ้าของวิน มีการรู้เห็นกันหรือไม่

ซึ่งตนเองจึงอยากเรียกร้องให้ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เข้ามาดำเนินการปราบปรามมาเฟีย และการเรียกเก็บเงินดังกล่าวนี้ ให้ถูกต้องตามกฎหมายของผู้ที่ประกอบอาชีพอย่างสุจริตนี้ด้วย เพราะที่ผ่านมาเคยร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน รวมถึงเคยศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาลไป แต่ยังไม่มีใครเข้ามาดำเนินการส่วนราคาค่าโดยสาร ก็ให้เป็นไปตามระยะทางและกฎระเบียบของกรมการขนส่งทางบก ที่กำหนดไว้