วัดธรรมกายคุมเข้ม! ห้ามสื่อเข้า หลังดีเอสไอสั่งปิดมูลนิธิยายจันทร์

ภายหลังจากพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ แถลงว่า คณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นในคดีพิเศษที่ 24/2560 เห็นควรกล่าวโทษมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง และกรรมการ มีความผิดในข้อหาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน นอกจากนั้น มูลนิธิฯ ยังดำเนินการผิดวัตถุประสงค์ก่อตั้งมูลนิธิฯ จึงเสนอให้อัยการ ยื่นฟ้องต่อศาลสั่งให้ยุบมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง และขอศาล สั่งให้ทรัพย์สินมูลนิธิฯ ตกเป็นของแผ่นดิน โดยทรัพย์สินบางส่วน ปปง.ได้ยึดอายัดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว กว่า 5,000 ล้านบาท นั้น ล่าสุดบรรยากาศที่วัดพระธรรมกายเงียบเหงาลงอย่างมาก ขณะที่การรักษาความปลอดภัยโดยรอบวัดยังคงเข้มงวด เจ้าหน้าที่ตรวจตรารถทุกคัน และคัดกรองบุคคลเข้าออกตลอด 24 ชั่วโมง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณประตู 7 ซึ่งถือเป็นประตูหลักที่ลูกศิษย์วัดจะใช้ผ่านเข้าออกเพื่อไปปฏิบัติศาสนกิจ พบว่ามีรถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ส่วนบุคคล เข้าออกวัดอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ไม่มากเหมือนแต่ก่อน โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจตรารถทุกคันอย่างเข้มงวด จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของทางวัดที่ประจำการอยู่ที่ประตู 7 บอกว่า ในวันนี้ยังไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าสู่ด้านใน โดยต้องรอคำสั่งจากส่วนที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ว่าจะเปิดให้สื่อมวลชนเข้าภายในวัดได้เมื่อใด ทำได้เพียงบันทึกภาพจากด้านนอกเท่านั้น ในขณะผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวีทำข่าว มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครของวัดพระธรรมกายคอยบันทึกภาพทีมข่าวอยู่ตลอดเวลา


สำหรับวัดพระธรรมกายมีประตูเข้าออกทั้งหมด 15 ประตู ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดๆละ 2 คน และมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพบุคคลเข้าออกตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะบริเวณประตูคลอง 3 ถือว่าสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นเส้นทางผ่านเข้าออกอาคารมูลนิธิอุบาสิกาจันทร์ฯ ขนนกยูง หรืออาคารลูกโลก ที่ดีเอสไอเพิ่งแถลงสั่งปิดเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา หลังพบว่าเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน


จากการสอบถามบุคคลที่อยู่ภายนอกวัดพระธรรมกาย โดยเฉพาะวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หน้าประตู 7 ของวัดพระธรรมกายยอมรับว่า หลังจากมีข่าวบุกจับพระธัมมชโยตั้งแต่ช่วงกลางปีก่อน จนกระทั่งวันนี้ที่มีข่าวปิดมูลนิธิฯ ขนนกยูง และยึดทรัพย์วัดพระธรรมกาย ลูกศิษย์ลูกหาที่เคยมาทำบุญลดลงอย่างต่อเนื่อง


สำหรับการดำเนินคดีฟอกเงินกับมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง และกรรมการมูลนิธิฯ ที่ได้รับเงินจำนวน 125 ล้านบาท จากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร กับพวก ที่ร่วมกันยักยอกและฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นนั้น ดีเอสไอได้ดำเนินคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ จนสามารถติดตามเงินสดจำนวน 1,500 ล้านบาท และทรัพย์สินอีก 299 รายการ มูลค่า 3,800 ล้านบาท รวมทรัพย์ที่ติดตามคืนได้ทั้งสิ้น 5,300 ล้านบาท จากทรัพย์สินทั้งหมดกว่า 13,000 ล้านบาท


ส่วนอาคารทั้ง 3 แห่งภายในวัดพระธรรมกาย ทั้งอาคารลูกโลก วิหารคต และอาคารบุญรักษา สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้อายัดไว้ชั่วคราว แต่จากการสังเกตของทีมข่าวพบว่า ยังคงเปิดใช้งานตามปกติ มีการเปิดไฟในช่วงกลางคืน ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล หากศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน อาจขายทอดตลาด หรือให้ส่วนราชการเข้าใช้ประโยชน์////////