ผอ.รร.ร้อยเอ็ดยืนยัน ไม่มีนักเรียนผี

ความคืบหน้าการตรวจสอบนักเรียนผี หรือนักเรียนที่ไม่มีตัวตนในโรงเรียน แต่ถูกนำชื่อมาเวียนขอรับงบประมาณจากกระทรวงศึกษาธิการ โดยพบข้อมูลว่า มีนักเรียนที่มีรายชื่อซ้ำซ้อนทั่วประเทศกว่า 110,000 รหัส คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้พบความผิดปกติหลายจังหวัดในภาคอีสาน ทั้งชัยภูมิ อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และศรีสะเกษ



ส่วนในจ.ร้อยเอ็ด มี 2 โรงเรียนที่โดนร้องเรียนคือ โรงเรียนหนองผึ้งวิทยาคาร อ.เกษตรวิสัย และโรงเรียนช้างเผือกวิทยาคม อ.สุวรรณภูมิ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 27 ที่มีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ โดยจำนวนนักเรียนชั้น ม.5 ปีการศึกษา 2560 มีจำนวน 83 คน แต่มาเพิ่มเป็น 184 คน เมื่อขึ้นสู่ชั้น ม.6 ปีการศึกษา 2561 หรือคิดเป็นสองเท่า ทำให้เกิดความสงสัยว่า มีการจัดทำข้อมูลตัวเลข เพื่อให้ได้เปรียบผู้บริหารรายอื่นในการย้ายไปประจำโรงเรียนขนาดใหญ่กว่า ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น



ล่าสุดทีมข่าวเนชั่นทีวี ลงพื้นที่โรงเรียนช้างเผือกฯ และได้พบกับนายภิญโญ หอมไกล ผอ.โรงเรียนช้างเผือกฯ ชี้แจงว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยของตน เนื่องจากเพิ่งย้ายมาไม่ถึง 6 เดือน แต่ได้สั่งการให้ตรวจสอบพบว่า นักเรียนที่เพิ่มขึ้น เป็นนักเรียนในโครงการการศึกษาทางเลือก (Alternative Education) ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทำร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) รูปแบบคล้ายโรงเรียนกศน. สำหรับกลุ่มนักเรียนที่ติด "0" "ร" "มส" เรียนไม่จบตามเกณฑ์ หรือต้องหยุดเรียนกลางครัน ซึ่งส่วนใหญ่มีปัญหาความไม่พร้อมทางด้านครอบครัว 


ผอ.โรงเรียนช้างเผือกฯ ยังบอกอีกว่า นักเรียนในโครงการการศึกษาทางเลือก ไม่ใช่นักเรียนจากที่อื่น แต่เคยเรียนที่นี่แล้วเรียนไม่จบ ซึ่งโรงเรียนไม่ได้จำหน่ายชื่อออกจากระบบ และจัดการศึกษาแบบพิเศษให้ ไม่ต้องเข้าชั้นเรียนเหมือนเด็กปกติ แต่ต้องมารายงานตัวทุกเดือนๆละ 2 ครั้ง ซึ่งนักเรียนกลุ่มนี้จะได้รับงบอุดหนุนรายหัวเช่นเดียวกับนักเรียนในระบบ 


จากข้อมูลรายงานบนเว็บไซต์สพฐ. เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2561 พบว่าโรงเรียนช้างเผือกมีนักเรียนตั้งแต่ชั้น ม.1 - ม.6 จำนวน 510 คน ซึ่งจัดเป็นโรงเรียนขนาดกลาง แต่เมื่อเกิดการร้องเรียนมายังสพม. เขต 27 จึงทำหนังสือถึงผอ.โรงเรียนให้นำชื่อนักเรียนทางเลือก 137 คนออกจากระบบ และให้คงไว้เฉพาะนักเรียนที่อยู่ในระบบเท่านั้น ทำให้จำนวนลดลงเหลือ 373 คน



ผอ.โรงเรียนช้างเผือกฯ ยืนยันว่า โครงการการศึกษาทางเลือกเป็นโครงการที่ดี เพราะเปิดโอกาสให้กับนักเรียนที่ไม่พร้อมด้านครอบครัว สามารถกลับมาเรียนต่อได้เหมือนเด็กปกติ ซึ่งที่ผ่านมาดำเนินการตั้งแต่ปี 2559 ไม่เคยมีปัญหา แต่พอเกิดเรื่องร้องเรียน จึงต้องชะลอโครงการออกไปก่อน ส่วนตัวมองว่าหากจะแก้ควรแก้ที่หลักเกณฑ์การย้ายผู้บริหารสถานศึกษา (ว. 24) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เนื่องจากใช้จำนวนนักเรียนมาเป็นเกณฑ์ ในการโยกย้ายผอ.โรงเรียน ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา