แม่มดกัญชาขวัญใจสายเขียว เปิดใจวิธีทางกัญชากู้ชาติ

เปิดเผยภายหลังจากการเสวนาเรื่อง กัญชากู้ชาติ ว่า เรื่องของกัญชาที่เราใช้พรรคกัญชากู้ชาติ เพราะเราดูจากสถานการณ์โลก ไม่ใช่ว่าเราพูดเอง ว่าเขามีการพัฒนาเพื่อเศรษฐกิจและประเทศชาติอย่างไร นอกจากจะทำให้ประชาชนสุขภาพดีขึ้น และมีทางเลือกในการรักษาโรคร้ายที่เรากลัวกันคือโรคมะเร็ง โดยใช้กันมานานแล้วกว่า 40 ปี ที่ประเทศอิสราเอล
"อันดับแรก คืออยากให้คนไทยเปิดใจ และถอดกัญชาคือคำว่ายาเสพติดและเรียนรู้กับมัน คนไทยมีการศึกษา เปิดหูเปิดตาเปิดใจ ดูการศึกษาจากต่างประเทศ ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนไป ไม่ใช่ไปนั่งอ่านหนังสือ หรือฟังจากคุณหมอ ผู้เชี่ยวชาญ ทุกวันนี้ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันหมด ทั้งกูเกิล เฟซบุ๊ค เขาแบ่งปันกัน เรียนรู้เปิดหูเปิดตาเปิดใจ โดยส่วนตัวเชื่อว่ากัญชาจะกู้ชาติเพราะนำเศรษฐกิจไทย คือคนไทยยังสุขภาพไม่ดีเราจะไม่มีความก้าวหน้า เราจะยังเจ็บป่วยอยู่ เราไม่มีทางเลือกเราไม่มีทางรักษา เราจะพัฒนาประเทศของเราไปได้อย่างไร"ดร.แก้มหอม กล่าว


ดร.แก้มหอม กล่าวอีกว่า เมืองไทยที่เราเดินข้ามไม่ผ่าน ที่ยังติดกับโซ่ของนายทุน หรือผลประโยชน์ที่กัญชาจะเข้ามา ปีนี้แค่ 10 เดือนเท่านั้นที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เงินจากการขายยาเคมีหายไป 8 หมื่นกว่าล้านบาท ทุกที่รู้หมด แต่บริษัทยาต่างๆเริ่มเปลี่ยนเริ่มที่จะใช้กัญชาเป็นยารักษา ในประเทศไทยก็เช่นกัน คนไทยรู้กันหมดรู้ดีกว่าตนเอง แต่เราจะต้องข้ามผ่านไป บริษัทยาหรือนายทุนใหญ่ๆต้องหาทางปรับตัว ใช้กัญชาเป็นยามาผลิตเป็นสมุนไพร


"วันนี้เราจะต้องเหนื่อย ถ้าวันนี้รัฐบาลประกาศกัญชาเป็นยารักษาโรคมันต้องกระทบกับยาเคมีที่คนจะไม่ยอมใช้เพราะทำลายตับทำลายไตทำลายระบบประสาท อย่างไรก็ตาม ยังเห็นว่ายาเคมีและสมุนไพรต่างมีความสำคัญ อยู่ที่เราจะใช้อย่างไร ยาเคมีใช้อย่างไรใช้จำเป็นไม่ใช่ใช้เรื้อรังกินกัน 10 ปี 20 ปี คนไทยต้องศึกษาเรียนรู้และเปิดใจ"ดร.แก้มหอม กล่าว


ดร.แก้มหอม กล่าวอีกว่า เรื่องกัญชาเรามีอยู่แล้วเราไม่ต้องเรียน เพราะมีในตำหรับยาไทยเป็นทรัพย์สมบัติคนไทย ตำรายาแห่งชาติเรามีอยู่แล้ว หมอแพทย์แผนไทยควรจะเป็นคนแรกที่สามารถใช้ได้ ส่วนการสกัดในการใช้ระดับโลกต้องให้หมอแผนปัจจุบันทำ ก็ควรให้โอกาสทั้งหมอแผนไทยและแผนปัจจุบัน เหมือนที่ประเทศสหรัฐอเมริกาทำ นำแพทย์ทุกแขนงเพื่อมาใช้กัญชารักษา และแชร์ด้วยกัน เพราะประโยชน์สูงสุดก็คือคนไข้และผู้ป่วยที่มีโอกาสหาย แต่ประเทศไทยยังคงเถียงกันอยู่ ไม่ยอมปลดล๊อค นั่นคือความเลวร้ายของระบบนายทุนของระบบยาเคมีที่ไม่เปิดใจไม่เปิดโอกาสให้ผู้ป่วย ซึ่งตนเห็นว่ามันเป็นความเห็นแก่ตัวที่สุด