(คลิปข่าว) บ้านพักตำรวจโทรมจริง ของบซ่อมทุกปีแต่ยังไม่ได้

(22 ต.ค.61) จากกรณีที่โซเชียลได้มีการแชร์ภาพสภาพบ้านพักข้าราชการตำรวจ สภ.หนองสองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ชำรุดทรุดโทรมถูกปลวกกัดกินจนผุพัง ทำให้ข้าราชการตำรวจต้องทนพักอาศัยตามสภาพ พร้อมระบุข้อความว่า "บางทีอยากให้บิ๊กสีกากี หันมามองความเป็นอยู่ผู้ใต้บังคับบัญชาบ้าง #บ้านพักตำรวจ#สถานีตำรวจภูธรหนองสองห้อง#บุรีรัมย์" จนกลายเป็นกระแสฮือฮาอยู่ในขณะนี้


ล่าสุด พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า เดิมบ้านพักข้าราชการตำรวจ สภ.หนองสองห้อง ที่เป็นแบบอาคารไม้ชั้นเดียวมีทั้งหมด 3 เรือนแถว ถูกรื้อไปแล้ว 1 เรือนแถว และมีการก่อสร้างใหม่ทดแทนเป็นอาคารปูน 2 ชั้น ส่วนอีก 2 เรือนแถวที่ปรากฏในสังคมออนไลน์นั้น จากการตรวจสอบก็พบว่ามีสภาพชำรุดทรุดโทรมจริง ซึ่งก็เป็นไปตามระยะเวลาเพราะบ้านพักดังกล่าวก่อสร้างมานานกว่า 50 ปีแล้ว ประกอบกับเป็นอาคารไม้เก่าก็จะชำรุดไปตามกาลเวลา ซึ่งก็มีโรงพักและอาคารบ้านพักของตำรวจหลายแห่งที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรมในลักษณะเดียวกัน


ที่ผ่านมาทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เสนอของบประมาณไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการก่อสร้างใหม่ทุกปี ก่อนหน้านี้ก็ได้รับการจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการก่อสร้างอาคารที่ทำการโรงพัก สภ.หนองสองห้อง งบประมาณกว่า 18 ล้านบาท เป็นอาคารปูนแบบ 3 ชั้น สร้างแล้วเสร็จใช้งานได้ประมาณ 2 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้รับประมาณมาซ่อมแซมหรือสร้างอาคารบ้านพักหลังใหม่ ซึ่งโดยปกติแล้วหากสถานีตำรวจใด ได้รับงบประมาณมาดำเนินการก่อสร้างอาคารที่ทำการโรงพักใหม่ทดแทนหลังเดิมแล้ว อาคารบ้านพักของข้าราชการตำรวจก็จะถูกชะลอไปก่อน เพื่อจัดสรรงบประมาณไปยังโรงพักอื่นๆ ที่ชำรุดทรุดโทรมทั่วประเทศด้วย


รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ยังระบุอีกว่า จากกรณีดังกล่าวก็จะได้มีการติดตามเร่งรัดงบประมาณที่ได้เสนอขอไป ทั้งอาคารบ้านพักของ สภ.หนองสองห้อง รวมถึงอาคารบ้านพักของสถานีตำรวจอื่นๆ อีกหลายแห่งที่ชำรุดทรุดโทรมแบบนี้ ยืนยันว่าทางผู้บังคับบัญชาไม่ได้นิ่งนอนใจกับสภาพความเป็นอยู่ของข้าราชการตำรวจ เพราะที่ผ่านมาได้มีการเสนอของบประมาณไปทุกปี แต่ก็ต้องยอมรับว่าทั่วประเทศมีโรงพักและอาคารบ้านพักตำรวจ ที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรมหลายแห่ง ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับความจำเป็นเร่งด่วนและดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ในการพิจารณาจัดสรรงบตามความเหมาะสมและความจำเป็นเร่งด่วน เชื่อว่าหากมีงบประมาณเพียงพอทางผู้บังคับบัญชาการเอง ก็คงจะพิจารณาจัดสรรมาดำเนินการซ่อมสร้างให้อย่างแน่นอน