โดยก่อนการบรรยาย นายอภิสิทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึง การประกาศระเบียบการลงคะแนน ในการหยั่งเสียง ที่กกต พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ให้มีการลงคะแนนผ่านระบบ แอพพลิเคชั่น เพียงวันที่ 1-3 พฤศจิกายน จากเดิม วันที่ 1-5 พฤศจิกายน จะส่งผลต่อ จำนวนสมาชิกที่จะมายังเสียง หรือไม่ ว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะถือว่าเป็นกติกาที่กำหนดมาแล้ว และไม่มีการที่จะได้เปรียบหรือเสียเปรียบกัน เพราะเมื่อมีการพิจารณาแล้วส่วนตัวก็พร้อมจะปฏิบัติตาม
ส่วนกรณีที่เหล่ารัฐมนตรีสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ใช้วันหยุดราชการในการลงพื้นที่ พบปะประชาชน ซึ่งนายอภิสิทธิ์มองว่า สิ่งสำคัญคือทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย อย่างกระบวนการของพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำณขณะนี้คือ กระบวนการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ยังไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งใหญ่ ดังนั้นการที่จะโน้มน้าวให้สมาชิกมาเลือกใครมาเป็นหัวหน้าพรรค ก็จะต้องมีการ บอกว่าจะนำพาพรรคไปสู่ทิศทางไหน ซึ่งส่วนตัวก็อยากจะให้พรรคการเมืองทุกพรรคทำอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่พรรคการเมืองทุกพรรคจะได้เป็นของประชาชน
ส่วนประเด็นของการลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรี ที่สังกัดพรรคพลังประชารัฐ นายอภิสิทธิ์ มองว่า เป็นสิทธิ์ของแต่ละคน แต่ทั้งหมดก็อยากจะให้ ยึดถือเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และเป้าหมายในการปฏิรูปการเมือง ที่ไม่ต้องการให้ คนที่มีอำนาจรัฐ อาศัยความเป็นรัฐ ได้เปรียบในการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็น รัฐบาลชุดไหนในยุคไหนก็ตาม
ส่วนกรณีที่นายสุเทพเทือกสุบรรณ ประกาศว่าจะมี การเลือกตั้งหัวหน้าพรรค รวมพลังประชาชาติไทย บ้าง นายอภิสิทธิ์บอกว่า เป็นสิ่งที่ดีและอยากให้ทุกพรรค ได้ทำ จะได้ไม่ต้องมาบอกว่าพรรคนี้เป็นของใคร ซึ่งถ้าสมาชิก เลือกนายสุเทพให้เป็นหัวหน้าพรรค ก็เป็นเรื่องของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่ส่วนตัวไม่ได้ไปแทรกแซง
ขณะที่บนเวทีบรรยาย นายอภิสิทธิ์ ได้เล่าถึงอดีตของตัวเองที่ได้เริ่มชีวิตการเป็นนักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีความผูกพันธ์กับพื้นที่เพราะเคยได้รับเลือกให้เป็นส.ส.กรุงเทพมหานคร ก่อนขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคประขาธิปัตย์ และการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็มีความพร้อมที่จะนำทัพประชาธิปัตย์สู้ศึกการเลือกตั้ง หากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง
สำหรับ ขั้นตอนการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะมีการลงคะแนนผ่านแอพพลิเคชั่น D-election ในวันที่ 1-3 พ.ย.นี้ ส่วนการลงคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศจะมี 2 วัน คือวันที่ 1 พ.ย.สำหรับ พื้นที่ กทม. ภาคเหนือ ภาคกลาง และวันที่ 5 พ.ย.สำหรับภาคใต้ และภาคอีสาน