สำนักสิ่งแวดล้อมชี้ เเจ้งความเอาผิดทันที หากพบคู่รักทำอนาจารในสวนสาธารณะ

จากกรณีการพบพฤติกรรมของชายชาวต่างชาติ ที่เข้ามากระทำอนาจาร ภายในพื้นที่สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร จนมีการเปิดประเด็นถึงการใช้สวนสาธารณะในทางที่ไม่เหมาะสมของกลุ่มชายรักชายซึ่งพบว่ามีจำนวนหลายครั้ง ล่าสุด สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักงานสวนสาธารณะ ได้ประชุมมอบนโยบายเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องในการดูแลสวนสาธารณะ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ศาลาว่าการกทม.2


โดย ผู้อำนวยการสำนักสิ่งเเวดล้อม วัลยา วัฒนรัตน์ บอกว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังที่เป็นกระเเสข่าว ทางสำนักสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในพื้นที่กทม โดยในที่ประชุมได้กำชับและมอบนโยบายแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลสวนสาธารณะ ซึ่งได้ ให้เพิ่มความถี่ในการตรวจตาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมากขึ้น / จัดทำป้ายขอห้ามต่างๆในการใช้สวนสาธารณะและเพิ่มเติมข้อห้ามในการทำอนาจาร เป็นภาษาอังกฤษให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมที่มีอยู่แล้ว / เพิ่มกล้องวงจรปิด CCTV ให้สามารถสอดส่องดูแล ตามมุมอับสายตา / ดูแลกำกับการใช้ห้องน้ำให้มากยิ่งขึ้น และจากนี้ไปสวนสาธารณะทั้ง37แห่ง จะต้องรายงานผลอย่างเป็นทางการให้สำนักสิ่งเเวดล้อมรับทราบถึงเหตุการณ์ที่ผิดปกติต่างๆ อยู่เสมอ


นอกจากนี้ นางวัลยา ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาปัญหาเหล่านี้อาจจะไม่เคยเกิดขึ้นจริงหรือเกิดขึ้นจริงบ้างบางสวนสาธารณะก็เป็นได้เพราะ ถุงยางอนามัย ที่พบเจอนั้นยังไม่ได้รับการตรวจสอบว่าใช้ไปแล้วหรือไม่ ส่วนตัว ยืนยันถึงเรื่องการร่วมเพศว่าไม่เคยเกิดขึ้นในสวนสาธารณะแต่อย่างไร แต่ถ้าพบเจอ เจ้าหน้าสามารถดำเนินการแจ้งความตามกฏหมายได้ทันที ทั้งนี้ฝากสังคมและสื่อมวลชน ให้ช่วยกันให้การศึกษาในวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย เพื่อให้การใช้สวนสาธารณะเป็นไปตามความเหมาะสมและตามระเบียบ โดยขณะนี้ยังไม่มีการเเจ้งเบาะเเสเพิ่มเติมถึงการพบเจอเหตุการณ์อนาจารอีกแต่อย่างไร


สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีสวนสาธารณะและสวนหย่อม รวมทั้งสิ้น 7,814 แห่ง โดยสวนสาธารณะขนาดเล็กอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของสำนักงานเขตในพื้นที่ ส่วนสวนสาธารณะขนาดใหญ่ จำนวน 37 แห่ง อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของสำนักสิ่งแวดล้อม ซึ่งสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในแต่ละวันจะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากประมาณ 10,000-20,000 คนต่อวัน