svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สทนช.ชี้สถานการณ์น้ำ "เขื่อนใหญ่" มากกว่าปี 54 ยันยังเอาอยู่

02 สิงหาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"สทนช." เผยสถานการณน้ำในอีสานน่าห่วง เขื่อนขนาดกลางเกินความจุกว่า 50 แห่ง จ่อเปิดศูนย์เฉพาะกิจร่วมเกาะติด24ชม. รับปริมาณน้ำ "เขื่อนใหญ่" บางแห่ง มากกว่าปี 54 แต่ยังควบคุมได้

เมื่อวันที่ 2 ส.ค.61 เวลา 08.45 น. ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในขณะนี้ว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำเชิงลึกซึ่งต้องเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 11 แห่ง คาดการณ์ว่าอีก 1 เดือนข้างหน้าปริมาณน้ำอาจจะสูงมากกว่านี้ จึงต้องมีมาตรการพร่องน้ำโดยอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80-90 เปอร์เซ็นต์ มี 2 แห่งคือที่เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนครและที่เขื่อนแก่งกระจานจ.เพชรบุรี ที่ต้องให้ความสำคัญเป็นกรณีพิเศษให้มีการระบายน้ำมากกว่านี้



โดยพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดำเนินการภายใน 5 วันให้ได้ โดยก่อนระบายน้ำให้แจ้งผู้ว่าฯ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ก่อน 3 วันเพื่อให้ภาคประชาชนรับรู้และจัดทำรายงานผลกระทบท้ายน้ำว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และหากระดับน้ำอยู่ในะดับวิกฤต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. จะเป็นผู้สั่งการ แต่สถานการณ์น้ำโดยรวมขณะนี้ยังอยู่ในเกณฑ์สีเหลืองหรือในระดับเตรียมการเท่านั้น



สทนช.ชี้สถานการณ์น้ำ \"เขื่อนใหญ่\" มากกว่าปี 54 ยันยังเอาอยู่



นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่าในวันที่ 3 ส.ค.นี้ เวลา 08.00 น. จะมีการเปิดศูนย์เฉพาะกิจร่วม ที่กรมชลประทานโดยศูนย์ดังกล่าวจะดำเนินการร่วมกันตลอด 24 ชั่วโมงอย่างใกล้ชิดมีเจ้าหน้าที่ร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อให้ได้ข้อมูลชุดเดียวกัน อย่างไรก็ตาม แม้ปริมาณฝนในช่วงต้นเดือนส.ค.อาจจะไม่มากซึ่งในภาคกลางและภาคเหนือสถานการณ์ยังไม่น่าเป็นกังวลแต่ในภาคอีสานปริมาณน้ำในเขื่อนที่มากกว่าความจุร้อยเปอร์เซ็นต์ในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางมีจำนวนมากกว่า 50 แห่ง ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิดจึงต้องวิเคราะห์ความสมดุลในการรับน้ำและระบายน้ำ นอกจากนี้อ่างเก็บน้ำขนาดเล็กกว่า 1,000 แห่งก็ได้มอบหมายให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าไปดูแลในเบื้องต้นก่อนหากจำเป็นต้องระบายน้ำฉุกเฉินจะต้องดำเนินการแห่งใดบ้างซึ่งยังมีเวลาเตรียมการ 1-2 สัปดาห์ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดสถานการณ์ใด ณ วันนี้


เมื่อถามว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่าปริมาณน้ำปีนี้มากกว่าปี 54 ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนายสมเกียรติ กล่าวว่าปริมาณน้ำเมื่อวันที่ 1พ.ค.ที่ผ่านมาโดยรวมถือว่าสูงกว่า เป็นข้อเท็จจริงที่ใช่แต่มีปริมาณสูงกว่าในเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เพียงบางแห่งเท่านั้นเช่นในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้โดยในภาคกลางได้มีการเฝ้าระวังเรื่องแผนบริหารจัดการน้ำ และเราไม่ประมาทตามที่มีพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาว่าพายุจะเข้ามาช่วงกลางเดือนส.ค.นี้ ขณะที่สถานการณ์น้ำริมฝั่งแม่น้ำโขงมีการเร่งสูบน้ำระบายออก โดยที่จ.อุบลราชธานีปริมาณน้ำลดลงแล้วแต่ที่จ.เลย หนองคายนครพนม มุกดาหารปริมาณน้ำมแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น 70 เซนติเมตร ถึง 1เมตรเนื่องจากมวลน้ำอาจถูกปล่อยมาจากจีนและสปป.ลาวจึงประสานกับสองประเทศว่าจะมีปริมาณน้ำปล่อยลงมาจำนวนเท่าใดซึ่งผู้ว่าฯได้รับทราบและแจ้งเตือนประชาชนแล้ว

logoline