svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ทรัมป์เตรียมแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 25% แทนอัตราที่เคยประกาศก่อนหน้านี้ที่ 10%

01 สิงหาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทรัมป์เตรียมแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 25% แทนอัตราที่เคยประกาศก่อนหน้านี้ที่ 10% เป็นมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ ส่งผลเงินหยวนร่วงแตะ 6.82 หยวนต่อดอลลาร์ในตลาด Onshore และแตะระดับ 6.84 หยวนในตลาด Offshore



ส่วนการรีวิวเพื่อเรียกเก็บภาษีเสริมในระลอกแรกอีก 16,000 ล้านดอลลาร์คาดว่าจะได้ข้อยุติในวันนี้ หลังจากที่ได้มีผลบังคับใช้การเรียกเก็บภาษีมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม
ขณะเดียวกันเฟดได้เปิดเผยฐานะผลการลดงบดุล ด้วยการดูดซับเม็ดเงิน QE กลับคืน จากการขายบอนด์รัฐบาลสหรัฐและตราสารการเงินในภาคอสังหาริมทรัพย์ ตามนโบบายการเงินกลับสู่ภาวะที่เป็นปกติ หรือ Normalization เป็นจำนวนเงิน 200,000 ล้านดอลลาร์แล้ว โดยจะขายคืนบอนด์เพื่อดูดซับกลับในวันนี้อีก 24,000 ล้านดอลลาร์


1.    คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมแผนที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 25% เป็นมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าแผนเดิมที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยประกาศไว้ช่วงค้นเดือนกรกฎาคมว่า จะมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนในอัตรา 10% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนกันยายน
โดยจะครอบคลุมถึงสินค้าจำนวน 6,031 รายการ ตั้งแต่สินค้าเพื่อผู้บริโภคไปจนถึงสินค้าด้านการเกษตร หลังจากสหรัฐและจีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจายุติปัญหาขัดแย้งทางการค้าถึง 3 รอบในช่วงที่ผ่านมา
2.  ขณะที่มีรายงานข่าวว่า สหรัฐที่นำโดยสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลัง และจีนนำโดยหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรี จะมีการเจรจากันเพื่อยุติความขัดแย้งทางการค้ารอบใหม่เป็นรอบที่ 4 แต่มาพบจุดดสะดุดอีก
อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมสหรัฐดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางนักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ 

3.   เฟดได้เปิดเผยฐานะผลการลดงบดุล ด้วยการดูดซับเม็ดเงิน QE กลับคืน จากการขายบอนด์รัฐบาลสหรัฐและตราสารการเงินในภาคอสังหาริมทรัพย์ หรือ MBS (Mortgate Backed Securities) ตามนโบบายการเงินกลับสู่ภาวะที่เป็นปกติ หรือ Normalization เป็นจำนวนเงิน 200,000 ล้านดอลลาร์แล้ว โดยจะขายคืนบอนด์เพื่อดูดซับกลับในวันนี้อีก 24,000 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ เม็ดเงิน QE ที่เฟดปล่อยเข้าสู่ตลาดเป็นยอดตงค้างสูงถึง 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ ด้วยการรับซื้อบอนด์รัฐบาลสหรัฐและ Mortgate Backed Securities เพื่ออุ้มระบบเศรษฐกิจสหรัฐให้พเนจากวิกฤติการเงินจากการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส และฟองสบู่แตกในภาคอสังหาริมทรัพย์ของวิกฤติซับไพรม์ ตั้งแต่ปั 2008-1009

4.   ขณะที่สัญญาณเศรษฐกิจจีนอ่อนตัวลง หลังสงครามกาาค้าสหรัฐและจีนเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา โดยปะทุจากการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 34,000 ล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม โดยที่ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน อยู่ที่ระดับ 50.8 ในเดือนกรกฑาคม ชะลอตัวลงจากระดับ 51.0 ในเดือนมิถุนายน
แต่ทั้งนี้ดัชนี PMI ยังเคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 ที่ชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังมีการขยายตัว ส่วนดัชนี PMI หากเคลื่อนไหวต่ำกว่า 50 จึงจะเป็นการชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต

5.  นอกจากนี้ เงินหยวนเคลื่อนไหวที่ 6.8211 หยวนต่อดอลลาร์ในตลาด Omshore ในทิศทางเดียวกับเงินหยวนอ่อนค่าลงลึกแตะ 6.8499 หยวนต่อดอลลาร์ ในตลาด Offshore
โดยที่เงินพยวนได้อ่อนค่าลงถึง 8% ทั้งในตลาด Omshore และตลาด Offshore จากระดับแข็งค่ามากที่สุดนับจากสิ้นเดือนมีนาคมปีนี้

logoline