svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

นายกฯอิตาลีคนใหม่ล้มเหลวจัดตั้งรัฐบาล พรรคการเมืองหลักไม่สนับสนุน

30 พฤษภาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอิตาลีล้มเหลวในการจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองหลัก คาดการเลือกตั้งครั้งใหม่อาจเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้ หลังประธานาธิบดี Sergio Mattarella เมินตั้งรัฐบาลรักษาการ

ดัชนี FTSE MIB ของตลาดหุ้นอิตาลีร่วงลงเกือบ 3% และหุ้นสเปนที่ร่ว'ลงกว่า 2.5% จากแรงเทขายหุ้นอย่าางหนัก ท่ามกลางนักลงทุนที่จับตาปัจจัยเสี่ยงการเมืองในอิตาลี ลามกระทบ EU ในวงกว้าง ที่อาจนำไปสู่วิกฤติของกลุ่มยูโรโซน ขณะที่บรรยากาศการเมืองสเปนที่ขาดเสถียรภาพ จากการที่พรรคฝ่ายค้านเรียกร้องให้มีการลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี มาริอาโน ราฮอย กรณีทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งรัฐสภาจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันพฤหัสฯ ก่อนที่จะมีการลงมติในวันศุกร์นี้


ความตื่นกลัวต่อวิกฤติ EU ยังส่งผลกระทบนักลงทุนที่มีการเทขายหุ้นอย่างหนักทั้งในตลาดยุโรปและสหรัฐ โดยเฉพาะดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 505 จุด ก่อนพยายามทรงตัวขึ้นมาปิดในแดนลบ 391 จุดหรือ 1.58% ในวันอังคาร โดยแรงตื่นขายหุ้นยังส่งผลถึงตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ร่วงเกือบ 2%


1.   Carlo Cottarelli นานกรัฐมนตรีอิตาลีคนใหม่ ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธืบดี Sergio Mattarella แต่กลับไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลเพื่อบริหารประเทศได้ เนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองใหญ่ที่สามารถคุมเสียงในรัฐสภาขณะนี้


ทั้งนี้ Carlo Cottarelli ในวัย 64 ปีเป็นอดีตนักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มีแนวคิดหนุนให้อิตาลีอยู่ร่วมในสหภาพยุโรป (EU) รวมทั้งใช้สกุลเงินยูโรต่อไป ซึ่งสวนทางกับความต้องการที่ต้องการออกจาก EU ของ 2 พรรคการเมืองใหญ่ที่ชนะเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา


โดยที่ Carlo Cottarelli เตรียมตัวเข้าพบกับประธานาธิบดีอิตาลี ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า จะมีการจัดเลือกตั้งเพื่อคลี่คลายปัญหาสุญญากาศทางการเมืองของอิตาลีในปัจจุบัน


2.   ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความผันผวนรุนแรงและร่วงลงในวงกว้าง ท่ามกลางความตื่นกลัวต่อวิกฤติการเมืองในอิตาลีที่ต้องการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU)  และเลิกให้สกุลเงินยูโร อาจซ้ำรอยกรณี Brexit ที่อังกฤษโหวตแยกตัวออกจาก EU เมื่อ 2 ปีก่อน


โดยที่ดัชนี FTSE MIB ของตลาดหุ้นอิตาลีร่วงลงเกือบ 3% และหุ้นสเปนที่ร่ว'ลงกว่า 2.5% จากแรงเทขายหุ้นอย่าางหนัก ท่ามกลางนักลงทุนที่จับตาปัจจัยเสี่ยงการเมืองในอิตาลี ลามกระทบ EU ในวงกว้าง ที่อาจนำไปสู่วิกฤติของกลุ่มยูโรโซน


หลังจากที่บรรยากาศการเมืองสเปนที่ขาดเสถียรภาพ จากการที่พรรคฝ่ายค้านเรียกร้องให้มีการลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี มาริอาโน ราฮอย กรณีทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งรัฐสภาจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันพฤหัสฯ ก่อนที่จะมีการลงมติในวันศุกร์นี้


3.   ความตื่นกลัวต่อวิกฤติ EU ยังส่งผลกระทบนักลงทุนที่มีการเทขายหุ้นอย่างหนักทั้งในตลาดยุโรปและสหรัฐ โดยด้านหุ้นยุโรปร่วงลเฉลี่ยง 1.37% นำโดยที่ดัชนี DAX ของเยอรมนีร่วงลง 1.53% และดัชนี FTSE 100 ลอนดอนร่วงลง 1.26% และดัชนี CAC-40 ฝรั่งเศส ร่วงลง 1.29% 


โดยเฉพาะหุ้นแบงก์ใน EU ได้ตกต่ำลงถึง 11% ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว  ลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดรอบ 18 เดือน และหุ้นกลุ่มแบงก์ในสหรัฐดิ่งลง  4% ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน


4.  ด้านดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 505 จุด ก่อนพยายามทรงตัวขึ้นมาปิดในแดนลบ 391 จุดหรือ 1.58% ปิดที่ระดับ 24,361 ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,689 ร่วงลง 31.47 จุด หรือ 1.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,396 ลดลง 37.26 จุด หรือ 0.50%


โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มแบงก์ในวอลล์สตรีทที่ร่วงลงอย่างหนัก คือ JPMorgan Chase ดิ่งลง 4.3% หุ้น Morgan Stanley ดิ่งลง 5.8% หุ้น Goldman Sachs ร่วงลง 3.4% หุ้น Citi Group และ Bank Of America ดิ่งลง 4%   


5.   แรงตื่นขายหุ้นยังคงส่งผลต่อตลาดหุ้นเอเชียในวันนี้ ร่วงลงเกือบ 2% สำหรับตลาดเหุ้นที่เป็นศูนบ์กลางการเงินในภูมิภาค ทั้ง  NIKKEI 225 ญี่ปุ่นดิ่งลงกว่า 400 จุดหรือ 1.79% ดัชนี HSI ฮ่องกงดิ่งลง 430 จุดหรือ 1.41% ดัชนี FTSE STI สิงคโปร์ ดิ่งลง 1.85%


ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วงลง 1.26% ดัชนี FBMKLCI ของมาเลเซียดิ่งลง 2.53% ดัชนี FTSE STI สิงคโปร์ ดิ่งลง 1.85% รวมทั้งหุ้นไทยร่่วงลง 12 จุดหรือ 0.71% แตะ 1,722

logoline