ด้าน มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย บอกว่า ในเกมนัดชิงฯกับสโลวะเกียเป็นเกมที่ไม่ง่ายอย่างแน่นอน ด้วยคุณภาพของทีม และอันดับโลกต่างกันเกือบ 100 อันดับ แต่ก็เชื่อว่าเราจะรักษาแชมป์ไว้ในประเทศไทย และทำให้แฟนฟุตบอลชาวไทยภูมิใจได้อย่างแน่นอน
ราเยวัช ยังบอกอีกว่า ทีมชาติสโลวะเกีย ถือเป็นคู่แข่งที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาของทีมชาติไทยเลยก็ว่าได้ จึงเชื่อว่านักเตะของเราจะได้รับประสบการณ์ที่ดี และต่อยอดให้ผู้เล่นของเราก้าวไปสู่อีกระดับของการเล่นฟุตบอลได้ ส่วนตัวผู้เล่นจะยังคงยึดแข้งชุดเดิมในเกมกับกาบองเป็นหลัก ประกอบด้วย พีรพัฒน์? โน้ตชัยยา, ฟิลิป โรลเลอร์, พรรษา เหมวิบูรณ์, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, จักรพันธ์ แก้วพรหม, ชนาธิป สรงกระสินธ์, มงคล ทศไกร, ธีราทร บุญมาทัน และ ธีรศิลป์ แดงดา
ขณะที่ทางฝั่งคู่แข่งทีมชาติสโลวะเกีย แยน โคซัค เฮดโค้ชของทีม พูดถึงความพร้อมในพบกับทีมชาติไทยว่า นักเตะของเรามีปัญหากับสภาพอากาศและการปรับตัวของผู้เล่นที่ส่วนใหญ่เล่นอยู่ในทวีปยุโรปอยู่บ้าง ที่ส่งผลอย่างเห็นได้ชัดในช่วงท้ายเกมกับทีมชาติยูเออี แต่การได้พัก 2 วันที่ผ่านมาก็ทำให้ลูกทีมมีสภาพร่างกายที่ดีขึ้นมาก ทั้งนี้จากข้อมูลที่ทางทีมงานได้ติดตามฟอร์มการเล่นของไทยในนัดแรก ยอมรับว่าเป็นทีมที่ดี แต่ก็ยังมั่นใจว่าสโลวะเกียจะคว้าแชมป์กลับไปได้อย่างแน่นอน ซึ่งก็เชื่อว่าเกมนัดชิงฯนี้ จะเป็นเกมที่สนุกอย่างแน่นอน
โดยสถิติการพบกันของทีมชาติไทยกับทีมทีมชาติสโลวาเกีย นั้นเคยพบกันมา 1 ครั้ง ซึ่งเป็นเกมอุ่นเครื่องเมื่อ 13 ปีที่แล้ว โดยที่เกมดังกล่าวทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1 ก่อนที่จะมาดวลกันที่จุดโทษ และเป็นสโลวาเกีย ที่เอาชนะไปด้วยสกอร์ 5-4 สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 คู่ชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติสโลวะเกีย จะแข่งขันในเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน