"ทรัมป์" ขู่ขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ยุโรป

ทรัมป์โพสต์ในทวิตเตอร์เมื่อวานนี้ว่า หากสหภาพยุโรปหรืออียูต้องการขึ้นภาษีนำเข้าและตั้งกำแพงภาษีซึ่งสูงอยู่แล้วกับบริษัทของสหรัฐฯ ที่ทำธุรกิจอยู่ที่นั่น สหรัฐฯ ก็จะขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตในอียูเพื่อตอบโต้ พร้อมกล่าวหาว่ามาตรการของอียูทำให้รถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐฯ ไม่สามารถแข่งขันในตลาดยุโรปได้ จนเกิดความไม่สมดุลในการค้าระหว่างกัน
เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังทรัมป์ประกาศจะขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กกล้า 25 เปอร์เซ็นต์ และอลูมิเนียม 10 เปอร์เซ็นต์ภายในสัปดาห์นี้ ทำให้แคนาดา บราซิล เม็กซิโก และญี่ปุ่นขู่จะออกมาตรการมาตอบโต้ และยังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรระหว่างประเทศ ทั้งองค์การการค้าโลกหรือดับเบิ้ลยูทีโอและกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ 
ขณะที่ฝั่งอียู นายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่า อียูอาจพิจารณาขึ้นภาษีนำเข้า 25 เปอร์เซ็นต์กับสินค้าของสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าราว 3 พัน 5 ร้อยล้านดอลลาร์ เช่น รถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์-เดวิดสัน, สุรา, และกางเกงยีนส์ลีวาย
สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของรถยนต์ที่ผลิตในอียู โดยจากข้อมูลในปี 2559 พบว่า อียูส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ เป็นมูลค่าถึง 2.37 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วน 25 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการส่งออกรถยนต์ทั้งหมด ตามมาด้วยจีนที่มีสัดส่วน 16 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในจำนวนที่ส่งออกทั้งหมด เป็นรถยนต์สัญชาติเยอรมันกว่าครึ่งหนึ่ง ขณะเดียวกันมีบริษัทรถยนต์ของเยอรมนีจำนวนมากที่ตั้งโรงงานในสหรัฐฯ และสร้างงานให้กับชาวอเมริกันได้มหาศาล