ดราม่า!! ใช้งานลูกหนัก "พ่อเจ" เคลียร์ชัด

เป็นดราม่าที่ทำเอา "เจ" เจตริน วรรธนะสิน ต้องออกมาเคลียร์ เพราะความฮอตของ 3 ลูกชายสุดหล่อ "เจ้านาย" จินเจษฏ์ "เจ้าขุน" จักรภัทร และ "เจ้าสมุทร" จักร ทำให้หลายคนเป็นห่วง เมื่อเห็นทั้ง 3 หนุ่มบินกลับไประยะเวลาสั้นๆ ที่ได้หยุดจากการเรียนที่อังกฤษ เพื่อมาทำงานต่างๆ ที่ประเทศไทย ทำเอาคนมองว่าคุณพ่อเจใช้งานลูกหนักไปหรือเปล่า งานนี้พอเจอ "เจ" เจตริน ที่มาเปิดตัวพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์กาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม "เอ็มเพรสโซ ดับเบิล ช็อต" ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เกาะพญาไท จึงถามถึงเรื่องนี้

"อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอก แค่อธิบาย จริงๆไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เราก็เป็นคนแบบนี้แหละ โพสต์อะไรให้มันอธิบายให้ชัดๆ พ่อแม่ที่ส่งลูกไปเรียนเมืองนอกจะเข้าใจ โดยเฉพาะส่งลูกไปเรียนที่อังกฤษ อังกฤษค่าเงินปอนด์มันแพงจริงๆ เทียบกับเงินบาท บางทีลูกปิดเทอมสั้นๆ 2 อาทิตย์ การที่อยู่ที่นู้น เราไม่ได้มีบ้าน ก็ต้องไปเช่า ต้องจ่ายค่าที่ให้ผู้ปกครองเขาดูแล ต่อคนต่อหัว ไม่ต้องบอกตัวเลขแล้วกัน ไหนจะค่าอาหาร ค่ารถ ค่าอยู่ ค่ากิน ค่าอะไรต่างๆในช่วง 2 อาทิตย์ที่เขาจะต้องไปนู้นไปนี่ ผมว่ากลับมาเมืองไทยมันคุ้มกว่า ประหยัดกว่า การเพิ่มค่าตั๋วนิดหน่อย หนึ่งคือได้กลับมาอยู่ใกล้พ่อแม่ สองก็คือการเพิ่มเงินอีกนิด เพื่อให้เขากลับมา อย่างน้อยอาจจะได้ทำงานด้วย ผมว่ามันก็โอเค แล้วความสมัครใจของลูกๆเขาก็อยากกลับอยู่แล้ว แล้วช่วงต้นปี ปลายปีอากาศมันเย็นมาก มันหนาวมาก ตอนนี้ที่อังกฤษหิมะตกที่โรงเรียนเขา เขาก็อยากกลับบ้าน แล้วที่เราโพสต์เพราะมีคนโจมตี จริงๆ จะบอกว่า ก็มาถามๆ เลยอธิบายเล่นๆ อธิบายให้เข้าใจ ไม่ได้มีใครว่าอะไรหรอก"

การที่ให้ลูกกลับมา มันคุ้มกับค่าเครื่องบินใช่ไหม

"พูดถึงแล้วถ้าเราคำนวณมันก็เพิ่มมาอีกสัก 1-2 หมื่นบาท ผมว่าก็กลับมาเถอะ ลูกไม่ต้องไปทนหนาว แล้วเรียนระบบที่ประเทศอังกฤษที่คนถามว่าทำไมถึงปิดเทอมบ่อย คือมันมีครึ่งเทอม ประเภท 12-14 วัน เราก็เลยให้กลับมา เพราะที่นู้นเวลาเขาปิดครึ่งเทอม ระบบโรงเรียนเขาจะให้เด็กหยุด แล้วให้ครูได้เตรียมการเรียนการสอนใหม่ เขาจะเป็นระบบการศึกษาที่ดีมาก จะทำความสะอาดห้องพัก ทำความสะอาดโรงเรียน เขาจะเป็นแบบนี้ตลอดเวลา"

เป้าหมายหลักของเราคืออยากให้เขากลับมาหาครอบครัว ไม่ใช่อยากให้กลับมาทำงานใช่ไหม

"ไม่หรอก กลับมาทำงานมันทำอยู่แล้ว อย่างเจ้านาย ตอนนี้ก็เข้ามาครึ่งตัวแล้ว ก็ทำงานอยู่แล้ว เราก็ไม่ได้จะเอาลูกมาหางาน เพราะตอนนี้เขามีงานจริงๆที่ติดต่อมา ไม่ว่าจะเป็นถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา แล้วบางทีลูกค้าเขาก็ซื้อตั๋วให้ด้วย คือเขาต้องการให้มาถ่ายด่วนตรงนี้ เพิ่มตรงนี้ แต่ว่าก็รวมกับงานของเราด้วย อย่างเจ้านายตอนนี้ก็เริ่มที่จะต้องมาเข้าห้องอัด ร้องเพลงใหม่แล้ว แล้วก็ในเดือนเมษายน ก็จะมีปิดเทอมอีสเตอร์อีก ก็ต้องบินกลับมา ต้องมาคุยเรื่องมิวสิควีดีโอ เรื่องโปรดักชั่น"

เหมือนกลับมาก็ไม่ได้พัก

"เจ้านายค่อนข้างจะหนักพอๆกับพ่อ เพราะเป็นพี่คนโต เขาก็โตแล้ว นิ่งแล้ว เช้าได้ ดึกได้ ไม่บ่น เจ้าขุนก็คงจะเริ่มตามมา เพราะก็มีลูกค้าติดต่อมาเยอะ กลับมาก็ถ่ายโฆษณากัน เจ้าสมุทรก็ไม่ใช่ธรรมดาแล้วตอนนี้"

เวลารับงานรับเฉพาะปิดเทอมหรือเปิดเทอมก็รับ

"เปิดเทอมรับไม่ได้ครับ เพราะว่าเรียนหนังสือ โรงเรียนที่นู้นก็ลาไม่ได้อยู่แล้ว ค่อนข้างที่จะเข้มงวด ถ้าลาคือต้องเป็นเหตุผลที่มีใครป่วยใครเจ็บ แต่ว่าโดยธรรมชาติเขาไม่ให้ลา อย่างเดือนหน้าผมกับปิ่นจะปิ่นไปพัก จะอยู่อังกฤษประมาณต้นเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนมีนาคม จะไปเยี่ยมลูก เขาก็ออกมาไม่ได้ ต้องรอเสาร์อาทิตย์เท่านั้นที่จะได้เจอกัน จริงๆก็ถ้าเกิดลูกมีเรียน ก็เอาเรียนเป็นหลัก ตอนนี้เอาเรียนเป็นหลัก ตอนนี้เจ้านายเวลาทำเพลงถึงโปรโมทได้แค่เกียร์เดียว สองเกียร์ไม่ได้ อัดเต็มไม่ได้ เพราะฉะนั้นบางทีเราต้องรอช่วงปิดเทอม เช่นปิดคริสต์มาสช่วงธันวาคม หรือปิดครึ่งเทอม กุมภาพันธ์ แล้วก็จะเป็นอีสเตอร์ช่วงเมษายน แล้วปิดเทอมใหญ่กรกฎาคมถึงสิงหาคม 2 เดือน อันนี้ก็จะเป็นช่วงที่มาขึ้นพากอนฮอลล์ ขึ้นอิมแพค แล้วก็จะวนใหม่ ปิดอีกทีก็คริสต์มาสอยู่แค่นี้ครับ"

แสดงว่าถ้าหากจะจองงานน้องต้องจองเฉพาะช่วงปิดเทอม

"ใช่ครับ ใช่ ซึ่งตอนนี้ของเจ้านายค่อนข้างเต็มแล้ว เพราะเขาเองก็อยากทำงานชอบทำงานเหมือนกัน แต่ก็จะแอบถามเหมือนกันว่ามีแบ่งเวลาให้เขาไปเจอกับเพื่อนบ้างหรือเปล่า"

เหมือนเด็กๆ ค่อนข้างแฮปปี้ที่ได้กลับบ้านมาแล้วทำงาน ไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องหยุด 

"เจ้านายชอบครับ เขาจะถามตลอดว่าจะต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน โดยเฉพาะงานเพลงเขาจะสนใจเป็นพิเศษเพราะตอนนี้เริ่มกลับเข้าห้องอัดอีกครั้งแล้ว คือผมพูดตรงนี้เลยนะครับ ผมกับปิ่นเราจะดูลูกๆ ในเรื่องของการทำงานละเอียดมาก เพราะเราเคยผ่านมาหมดแล้ว เคยเหนื่อยมาทุกอย่างแล้ว ดังนั้นตารางที่เราจัดให้ลูกเราจะมีวันพัก วันหยุด วันนอน คือเราจะจัดให้หมดครับ ไม่ได้ให้ลูกทำงานอย่างเดียวจนโหลด บ้านผมเน้นชิวครับ"

เวลาได้รับเงินค่าจ้างมาจะต้องรวมเป็นกองกลางในบ้านหรือว่าจัดการบริหารยังไง 

"ถ้าเรื่องเงิน ไม่ว่าจะเงินผมหรือเงินใครก็แล้วแต่เราใส่กองกลางหมดครับ แต่เราก็จะจดบัญชีเอาไว้ด้วย รวมถึงของเด็กๆ ด้วยเหมือนกันเพราะวัยของเขายังไม่สามารถรับเงินเองได้ อีกอย่างเรื่องรายได้เราก็ต้องผ่านในรูปลักษณ์ของบริษัทเช่นกัน ดังนั้นทุกอย่างจึงมีการทำบัญชีหมดครับ เด็กๆ เขาก็จะมาแอบดูบัญชีเขาตลอดว่าของเขาเท่าไหร่แล้ว (ยิ้ม) แต่เอาจริงๆ สำหรับตัวผมเองเรื่องเงินที่ได้มาก็แทบจะแบ่งให้ลูกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้านหรือซื้ออะไรก็แล้วแต่ครอบครัวเราจะต้องปรึกษากันตลอดครับ"