svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

แม่พร้อมญาติ รอรับศพสาวไทย ตกตึกตายที่บาห์เรน

25 สิงหาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สมุทรปราการ - เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 สิงหาคม 2560 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ชาว จ.นครราชสีมา มารดาของ น.ส.เกตุ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี สาวชาวไทยที่ตกตึกจนเสียชีวิตที่ประเทศบาห์เรน เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2560 และญาติ เดินทางมารับศพของ น.ส.เกตุ (นามสมมติ) ที่คลังสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ภายหลังจากอัยการประเทศบาห์เรนอนุญาตให้รับศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาได้

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้รับเรื่องร้องทุกข์ จากนางเอ (นามสมมติ) ที่ขอให้ช่วยตรวจสอบหาสาเหตุการตายที่แท้จริงของบุตรสาวและให้ความเป็นธรรมเนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการฆาตรกรรม เพราะก่อนหน้านี้บุตรสาวมีปัญหาขัดแย้งกับนายหน้าที่พาไปทำงานแผนกต้อนรับที่ร้านอาหารในประเทศบาห์เรน แล้วถูกบังคับค้าประเวณี หลังจากนั้นได้ตกจากอาคารที่สูงที่พักในเมืองมานามา ประเทศบารห์เรน กระทั่งเสียชีวิต จึงได้มีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ปคม.เพื่อให้ช่วยติดตามคดี และกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อสอบถามเรื่องความคืบหน้าของคดีและการดำเนินการนำศพ น.ส.เกตุ (นามสมมติ) กลับประเทศไทยตามที่ญาติร้องขอ
จนกระทั่งเมื่อวันที 19 ส.ค. ที่ผ่านมา กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้แจ้งมายังมูลนิธิปวีณาฯ ว่า อัยการของประเทศบาห์เรนอนุญาต ให้รับศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาได้ โดยทำการส่งศพกลับมาถึงวันนี้ โดยสายการบินกัลฟ์แอร์ เที่ยวบินที่ GF 152 ซึ่งหลังจากรับศพแล้วจะนำส่งที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจเพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายอีกครั้ง ก่อนที่ญาติจะรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่บ้านเกิด จ.สระแก้ว
ส่วนด้านคดี ตอนนี้ต้องรอผลสรุปจากประเทศบาห์เรนอีกครั้ง แต่ก่อนหน้านี้ได้มีการประสานส่งข้อมูลการแชทระหว่าง น.ส.เกตุ กับมารดา ที่ระบุว่าถูกทำร้ายและต้องมีการชดใช้เงินเป็นจำนวนกว่า 200,000 บาท ให้กับนายหน้าคนไทยที่พาไป เพื่อจะได้เดินทางกลับ ไปให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาคดีแล้ว รวมทั้งต้องรอผลการสอบปากคำนายหน้าคนไทยรายนี้ที่ถูกตรวจบาห์เรนจับกุมได้ดำเนินคดีในข้อหาค้าประเวณี อีกครั้ง
นางเอ (นามสมมติ) กล่าวว่า บุตรสาวเดินทางไปทำงานที่บาห์เรนเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยบอกว่ามีนายหน้าคนไทยที่รู้จักกันชักชวนให้ไปทำงานโดยเดินทางไปพร้อมกับเพื่อนอีก 3 คน ซึ่งก่อนหน้านั้นบุตรสาวทำงานอยู่ในร้านอาหารที่พัทยา หลังจากนั้นก็ติดต่อพูดคุยกันมาโดยตลอดผ่านทางแชทข้อความ ก่อนที่บุตรสาวจะเสียชีวิตได้แชทมาบอกตนว่าไม่ปลอดภัย คงไม่ได้กลับบ้าน และถ้าต้องการจะกลับบ้านต้องจ่ายเงินให้กับนายหน้าเป็นจำนวนกว่า 200,000 บาท หลังจากนั้นก็ติดต่อบุตรสาวไม่ได้จนกระทั่งได้รับการติดต่อมาจากบาห์เรนว่า บุตรสาวตกตึกอาการสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งตนไม่เชื่อว่าบุตรสาวจะฆ่าตัวตาย จึงร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอความเป็นธรรม

logoline