"แต่ที่แปลกประหลาดมหัศจรรย์ คือ มีการนำข้าวฯ 61,527.65 ตันนี้ มาเก็บไว้ที่โรงงานผลิตปุ๋ยเล็ก ๆ แต่ที่สุดพิศดาร คือ เมื่อรถบรรทุกบรรทุกข้าวมาแล้วได้ขนข้าวหายไป ไม่ได้มาทำปุ๋ยแต่อย่างใด จึงตั้งข้อสงสัยว่าโรงงานแห่งนี้ มีทุนจดทะเบียน เพียง 1 ล้านบาท ป้ายชื่อบริษัทก็ยังไม่มี แล้วเหตุใด กระทรวงพาณิชย์ ถึงได้กล้าขายข้าวให้ถึง 313.79 ล้านบาท"
นายยุทธพงศ์แถลงต่อว่าขณะที่ผลประกอบการของบริษัทดังกล่าวเมื่อปี 2558 ขาดทุน 2.59 ล้านบาท และปี 2559 ขาดทุน 640,000 บาท และมีรายได้ปีละ 1.15 ล้านบาท ทำไมก.พาณิชย์ ถึงได้กล้าค้าขายให้ด้วย ที่สำคัญประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า(อคส.)คนปัจจุบันก็เคยไปตรวจโรงงานแห่งนี้มาแล้ว และเห็นสภาพของโรงงาน ไม่มีสภาพที่จะสามารถผลิตปุ๋ยได้มากมายขนาดนี้ แล้วทำไมรัฐบาลยังไปขายข้าวให้ถึง 61,527.65 ตัน ทางคณะทำงานฯจึงมีข้อสงสัยในเรื่องความไม่โปร่งใสว่าอาจจะมีการนำข้าวไปเวียนเทียนแล้วขายกลับไปให้คนบริโภคอีก
"ผมขอเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ออกมาชี้แจงฯ ข้อสงสัยด้วยตนเอง มิฉะนั้นท่านอาจจะเสียหายฯได้ เพราะมีคนชอบนำชื่อท่านไปแอบอ้างเรื่อยๆ และท่านประธานบอร์ดอคส.ก็เคยไปตรวจโรงงานแห่งนี้ ท่านจะดำเนินการอย่างไรกับ ข้อสงสัยต่างๆ เหล่านี้ ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาล หยุดขายข้าวอาหารคนกินไปเป็นอาหารสัตว์แล้วนำข้าวสารดี ๆ เหล่านี้ มาแจกช่วยเหลือพี่น้องแถวบ้านผมทางภาคอีสาน ที่ประสบภัยน้ำท่วม และกำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ ถ้าสื่อมวลชนอยากจะรู้ หรือ อยากจะเห็น โรงงานนี้จริง ๆ ผม พร้อมที่จะนำสื่อมวลชนไปตรวจดูโรงงานนี้ด้วยตัวเอง"นายยุทธพงศ์กล่าวย้ำ