รวบแก๊งแอฟริกัน สวมรอยทหารอเมริกา ตุ๋นผอ.จ.ชัยภูมิ

ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) เมื่อเวลา15.20 น. วันที่15 กรกฎาคม พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท. ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. แถลงผลการจับกุมนาย แอนโทนี่ ชิชา (Anthony Chicha) อายุ 27 ปี สัญชาติ แซมเบีย,นายโมฮัมเม็ด แมนซาร่า (Mohammed Mansara) อายุ 33 ปี สัญชาติ เซียร์ราลีโอน,นายวิกเตอร์ยูโซโฮนาดูบุยสิ (Victor UzohoNdubuisi) อายุ 32 ปี สัญชาติ ไนจีเรีย และนายเดวิด ยูโซโฮเรจินาล (David Uzoho Reginald) อายุ 26 ปี สัญชาติไนจีเรีย โดยผู้อำนวยการโรงเรียน และรองผู้อำนวยการโรงเรียนดังในจังหวัดชัยภูมิตกเป็นเหยื่อ ถูกนายแอนโทนี่ สวมรอย เป็นทหารอเมริกัน และพยาบาลสาวในหน่วยทหารอเมริกัน เข้ามาหรอกตีสนิทกับผู้เสียหายหลังจากนั้นได้ยื่นข้อเสนอจูงใจให้โอนเงินให้ โดยตำรวจพบว่ามีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อกว่า 20 ราย นอกจากนี้ยังพบว่านายแอนโทนี่มี และมีหมายจับของ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อปี 2559 ด้วย

พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งจากการแกะรอยข้อมูลและเบาะแสต่างๆที่ได้จากผู้เสียหายพบความช่วงโยงไปถึงกลุ่มชาวแอฟริกันที่มีแหล่งพักอาศัยที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านนนทบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าติดตามจนกระทั่งสามารถจับกุมได้ จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือและเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหามีการใช้โปรแกรม Facebook หลายบัญชี โดยจะใช้ภาพโปรไฟล์เป็นบุคคลอื่นที่เป็นชาวต่างชาติผิวขาวหน้าตาดี ฐานะมั่นคง เช่น ทหารระดับนายพล นายแพทย์ และนักบิน ซึ่งพฤติการณ์ตรงกับที่ผู้เสียหายให้ข้อมูลและพบว่ายังมีการแชทคุยกับคนไทยที่กำลังหลอกลวงอยู่หลายคนโดยขณะนี้มีผู้เสียหายเข้ามาแสดงตัวแล้วจำนวน3ราย และยังไม่แสดงตัวจำนวนหนึ่ง

ด้านผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่าเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา มีนายทหารหญิงสังกัดกองทัพสหรัฐอเมริกา เข้ามาทักทายในโปรแกรมเฟซบุ๊ค ได้ติดต่อพูดคุยกันมาตลอด ตนเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่ได้ฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษและมีเพื่อนชาวต่างชาติ จึงได้ติดต่อกันเรื่อยมา โดยไม่เคยพบตัวจริงหรือสนทนาทางโทรศัพท์ เมื่อติดต่อกันได้ซักระยะหนึ่งคนร้ายอ้างว่าทำงานในพื้นที่สงครามในตะวันออกกลาง มีเงินที่ทางรัฐบาลสหรัฐส่งมาให้กองทัพอเมริกันในพื้นที่เป็นจำนวนหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ และถูกฝ่ายตรงข้ามปล้นเงินไป แต่ต่อมากลุ่มทหารอเมริกันได้ยึดคืนมาได้แต่ไม่ได้รายงานรัฐบาลและนำมาแบ่งกัน และอ้างว่าได้รับส่วนแบ่งมาจำนวนหนึ่งล้านดอลลาร์ประสงค์จะบริจาคเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาเด็กไทย โดยจะส่งเงินใส่กระเป๋าผ่านบริษัทขนส่งข้ามประเทศแล้วให้เหยื่อรอรับ หลังจากนั้นได้มีคนไทยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่ง แจ้งว่าเงินจำนวนดังกล่าวได้ส่งมาถึงแล้ว แต่ผู้รับปลายทางจะต้องชำระค่าธรรมเนียมจำนวนหนึ่ง ผู้เสียหายได้หลงเชื่อโอนเงินไปหลายครั้ง จนกระทั่งรู้ตัวว่าตกเป็นเหยื่อจึงขอความช่วยเหลือมาที่ สตม.

ขณะเดียวกันผู้เสียหายอีกหนึ่งราย กล่าวว่า เมื่อปลายเดือนมิถุนายที่ผ่านมา มีชายชาวอเมริกัน หน้าตาดี ติดต่อมาทางโปรแกรมเฟซบุ๊ค อ้างว่าเป็นนายทหารยศนายพล ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในประเทศอัฟกานิสถาน ภรรยาเสียแล้ว อยากตั้งครอบครัวใหม่ในประเทศไทย พร้อมอ้างว่ามีเงินและของมีค่าที่ยึดได้จากสงครามมูลค่ากว่าห้าแสนดอลลาร์สหรัฐ จะส่งมาให้เก็บรักษาไว้ เมื่อหมดภารกิจแล้วจะเดินทางมาแต่งงานกับผู้เสียหายที่ประเทศไทย โดยบอกว่าจะมีนักการทูตนำกระเป๋าใบนี้ไปส่งให้ จากนั้นมีคนไทยในขบวนการอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทูต, เจ้าหน้าที่ศุลกากร และเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่ง ติดต่อมาให้ชำระค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งตนหลงเชื่อยอมโอนเงินไปให้ประมาณ 8 แสนบาท