ผู้ต้องหาชาวแคนาดา ผูกคอตายคาห้องควบคุม ปส.

ที่ บช.ปส.เมื่อเวลา 08.00น. วันที่ 12 กรกฎาคม ร.ต.อ.สหรัตน์ หลวงสิริธนสิน รอง สว.(สอบสวน)สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งเหตุผู้ต้องขังใช้ผ้าเช็ดตัวผูกคอตัวเองเสียชีวิตภายในห้องควบคุมของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ทุ่งสองหอง พ.ต.ท.สำอาง ขาวสะอาด สว.สส.สน.ทุ่งสองห้อง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ทุสองห้อง และประสานเจ้าหน้าที่อัยการสหรัฐอเมริกา และไทย เจ้าหน้าที่บก.ข่าวกรอง แพทย์รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุภายในห้องควบคุมผู้ต้องหาของบช.ปส. ซึ่งมีจำนวน 4ห้อง แบ่งเป็นชาย 1 ห้อง หญิง 1 ห้อง ห้องควบคุมผู้ต้องหาเด็ก1ห้อง ห้องผู้ร้ายข้ามแดน 1 ห้อง ภายในห้องน้ำของห้องควบคุมผู้ร้ายข้ามแดน พบนายอเล็กซานเดอร์ แคส (Alexander Cazes) อายุ 26 ปี สัญชาติแคนาดา สวมกางเกงบล็อกเซอร์ลายขวางขาสั้น เสื้อยืดสีเทาแขนสั้น ที่บริเวณคอมีผ้าขนหนูสีน้ำเงินผูกอยู่ นอนตะแคงซ้ายเสียชีวิตอยู่ที่พื้นห้องน้ำ
ด้านพล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่าผู้ต้องขังที่เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ทางเอฟบีไอประสานว่าได้กระทำความผิดในประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนจะหลบหนีเข้ามากบดานในประเทศไทย จึงได้ติดตามจนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 514 หมู่บ้านไพรเวทเฮ้าส์ พุทธมณฑลสาย 3 แขวงศาลาธรรมศก เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ และได้นำมาควบคุมตัวไว้ที่ห้องควบคุมผู้ต้องหาของ บช.ปส. ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานเพื่อส่งกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นผู้ร้ายข้ามแดน
ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่าทางเจ้าหน้าที่บช.ปส ได้ทำการยึดรถยนต์ Lamborghini Aventador LP700-4 ปี 2011 สีเทา หมายเลขทะเบียน 4 กถ 3620 กรุงเทพมหานคร มูลค่าประมาณ 38 ล้านบาทไว้ที่ บช.ปส.จำนวน 1 คัน นอกจากนี้ยังมีทำการยึดทรัพย์สิน เป็นบ้านพักจำนวน 3 หลัง และรถยนต์ยี่ห้อแรมโบกินี่อีก 3 คัน รวมมูลค่ากว่า 400 ล้านบาทผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเกิดเหตุมีผู้ถูกคุมขังจำนวน 3 ราย เป็นชาย 2 ราย หญิง 1 ราย ซึ่งตัวผู้ต้องขังจะต้องส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาภายในวันนี้ แต่กลับตัดสินใจใช้ผ้าเช็ดตัวผูกคอตัวเองเสียชีวิตก่อน

ต่อมาเวลา 14.00น. ที่ห้องชมพูนุช บช.ปส. พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ ผบก.ประจำ บช.ปส. พล.ต.ต.ชยพจน์ หาสุณหะ ผบก.ขส.บช.ปส. พล.ต.ต.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผบก.ปส.1 บช.ปส ร่วมกันแถลงข่าวกรณีที่เกิดขึ้น
โดยพล.ต.ต.สุรศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำพยานซึ่งเป็นผู้ดูแลห้องควบคุมผู้ต้องขัง และ ผู้ต้องขังหญิง ซึ่งอยู่ห้องขังฝั่งตรงข้าม ยืนยันตรงกันว่าในช่วงเวลา 07.00 น. ผู้ต้องหา ยังมีการสอบถามเวลากับผู้ควบคุมก่อนจะไปอาบน้ำเพื่อเตรียมไปพบอัยการตามขั้นตอนส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งในห้องขังดังกล่าวมี นายอเล็กซานเดอร์ แคส ถูกควบคุมอยู่เพียงคนเดียว ส่วนผ้าเช็ดตัวเป็นของที่ผู้ต้องเอง และตามร่างกายไม่มีร่อยรอยการถูกทำร้าย นอกจากนี้ยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้องขัง ส่วนในเรื่องของการทบทวนความเข้มงวดในการดูแลผู้ต้องหานั้นเรามีระเบียนอยู่แล้ว ทั้งนี้ก็ต้องสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนั้น ก็ให้เป็นไปตามระเบียบ
พล.ต.ต.ชยพจน์ กล่าวว่า ในเรื่องการประสานงานกับประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีการประสานงาน และมำงานร่วมกันมาโดยตลอด สามารถจับผู้ร้ายข้ามแดนได้ในหลายคดี ส่วนกรณีนี้ก็เช่นกันได้รับการประสานจากทางประเทศสหรัฐอเมริกาให้จับตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวเนื่องจากเป็นผู้ต้องหารายสำคัญเกี่ยวกับยาเสพติด จนต่อมาสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านพัก เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ได้มีการแจ้งสิทธิ์ตามกฎหมายและนำตัวมาฝากขังไว้ที่ บช.ปส. ในส่วนของคดีสามการดำเนินการได้2ลักษณะคือการขอให้ดำเนินคดีในไทย หรือให้ดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้ต้องหาก็ยินยอมสมัครใจไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และจะมีการนำตัวไปส่งศาลวันนี้ในช่วงเช้า แต่กลับมาเกิดเหตุสลดเสียก่อน ทั้งนี้ผู้ต้องหาอาศัยอยู่ในประเทศไทยประมาณ7-8ปี มีภรรยาเป็นคนไทย ประกอบอาชีพเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และไม่เคยกระทำความผิดในปนะเทศไทย นอกจากนี้ในเรื่องของทรัพย์สิน และการดำเนินการยึดทรัพย์นั้นอยู่ระหว่างการดำเนินการ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกาไม่ติดใจในการตายครั้งนี้
ด้านพล.ต.ต.สุนทร กล่าวว่า ขอยืนยันว่า การเสียชีวิตของผู้ต้องขังไม่มีซ่อนเงื่อนงำ เป็นการผูกคอตัวเอง และจากนี้ก็จะสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เข้าเวรในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างละเอียดเพื่อหาแนวทางป้องกันเหตุ และยืนยันตำรวจปราบปรามยาเสพติดมีมาตรการคุมเข้มในการดูแลผู้ต้องขังอยู่แล้ว