จับตา! ม.44 แก้ปัญหารถไฟไทย-จีน

หลังจากเปิดให้ประชาชนมาตอบคำถาม 4 ข้อเมื่อวานเป็นวันแรก แต่ไม่คึกคักเท่าที่ควร พล.อ.ประยุทธ์ จึงย้ำว่า ไม่คาดหวังว่าประชาชนจะมาตอบเป็นเรื่องเป็นราว แค่ต้องการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน

การตอบคำถามของประชาชน ตามที่นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งไว้ 4 คำถาม ที่เปิดให้ประชาชนเข้ามาตอบเมื่อวานที่ผ่านมาเป็นวันแรก แต่ปรากฎว่ามีประชาชนมาแสดงความคิดเห็นไม่คึกคักเท่าที่ควร และคำตอบส่วนมากยังเป็นไปในทิศทางสนับสนุน คสช. อาจเป็นเพราะประชาชนที่มาแสดงความคิดเห็นต้องแสดงบัตรประชาชน จึงทำให้ประชาชนบางกลุ่มไม่กล้าแสดงความคิดเห็น ภาพรวมจึงออกมาค่อนข้างเงียบเหงา และเช้าวันนี้ ก่อนเข้าประชุม ครม.พล.อ.ประยุทธ์ ก็พูดถึงเรื่องนี้ว่า ไม่ได้คาดหวังว่า ประชาชนจะมาตอบ 4 คำถาม เป็นเรื่องเป็นราวอะไรใหญ่โต แค่จะสร้างการรับรู้ให้ประชาชน
ขณะที่ รมว.มหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา บอกว่า ภาพรวมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อคำถาม 4 ข้อ ในวันแรก ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องของปัญหาความขัดข้อง โดยภาพรวมเรียบร้อยดี ส่วนการพิจารณาช่องทางแสดงความเห็นเพิ่มเติม ก็เป็นไปได้ ซึ่งช่องทางที่กำลังพิจารณาคือ ไปเปิดจุดศูนย์รับความคิดเห็นที่ศูนย์การค้า ส่วนช่องทาง อิเล็คทรอนิคส์นั้น ก็อาจจะเป็นไปได้ ยืนยันไม่ว่าจะวิธีใดประชาชนต้องแสดงตนโดยการยื่นบัตรประชาชน เพราะห่วงเรื่องการสวมสิทธิ เนื่องจากจะทำให้การประเมินผลผิดเพี้ยน

ส่วนวาระการประชุมวันนี้ที่น่าสนใจ พล.อ.อนุพงษ์ ได้เสนอความคืบการเปิดให้ประชาชนตอบ 4 คำถามผ่านศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งเริ่มไปวันแรกเมื่อวานที่ผ่านมา นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคม ได้เสนอให้หัวหน้า คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งเพื่อแก้ไขปัญหาที่ทำให้เกิดความล่าช้าในการลงทุนโครงการรถไฟไทยจีน

สำนักปลัดประจำสำนักนายกฯ เสนอเรื่องการเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ปี 2556-2557 เพิ่มเติม และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอเรื่องการให้ความช่วยเหลือเงินดำรงชีพแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516

ซึ่งเรื่องนี้ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว บอกว่า ได้ขอความเห็นชอบจากที่ประชุมครม.เพื่อพิจารณาช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรม กับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 กรณีเงินดำรงชีพรายเดือนและค่าจัดงานศพแก่วีรชนและญาติที่ยังมีชีวิตอยู่เพิ่มเติมจำนวน 57 ราย รายละ 3,000 บาทจนกว่าจะเสียชีวิต วงเงินรวม 2.6 ล้านบาท ส่วนค่าจัดงานศพ จะได้รับ 20,000 บาทต่อราย โดยมีเงื่อนไขจะต้องมีการพิสูจน์ว่า เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวจริง

โดยการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 ครม.ได้ให้ความเห็นชอบจ่ายเงินช่วยเหลือไปแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2549 แบ่งเป็นผู้เสียชีวิต 42 ราย ได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 215,900 บาท ทุพลภาพ 47 ราย รายละ 1.4 ล้านบาท